ทันตกรรมจัดฟัน

ทันตกรรมจัดฟัน (Orthodontics) เป็นสาขาหนึ่งในทางทันตกรรม ที่ให้การวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาความผิดปกติ ของการเรียงฟัน และการสบฟัน รวมทั้งปัญหาความผิดปกติของขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรต่อใบหน้าการจัดฟัน เป็นการรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น เพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกอันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือก ในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ หลีกเลี่ยงการเกิดการสึกของฟันที่ผิดปกติจาการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะ สม นอกจากนี้ยังอาจช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพจากการที่มีฟันเรียงกันสวยงาม

ข้อมูลจากทันตแพทยสมาคม

ทันตกรรมจัดฟัน คืออะไร 

ทันตกรรมจัดฟัน หรือ ดัดฟัน เป็นทันตกรรมจัดฟันสาขาหนึ่งของทันตกรรม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการจัดฟัน ถือเป็นประเภทการรักษาที่อยู่ในประเภท ทันตกรรมเพื่อความงาม ( cosmetic dentistry ) การจัดฟันช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่สบกันผิดปกติและเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยวและความสะดวกในการดูแลรักษาความสะอาดฟัน

อีกทั้งยังช่วยเรื่องปรับรูปลักษณ์โครงหน้าให้เรียวขึ้น จึงเป็นที่นิยมของดารา นักร้อง นักแสดง รวมถึงผู้คนทั่วไปอย่างมาก รอยยิ้มที่สวยงามจะเพิ่มความมั่นใจ ความผิดปกติในการเรียงต้วของฟันที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อรูปร่างปากและใบหน้า เช่น ฟันซ้อนเก, การสบฟันไม่ดี, การมีช่องห่างระหว่างฟัน

ปัจจุบันการจัดฟันมีราคาที่ค่อนข้างหลากหลาย สามารถเลือกชนิดเครื่องมือได้ขึ้นอยู่กับความต้องการ และความจำเป็นของผู้เข้ารับบริการตาม life style ของแต่ละบุคคล เช่น การจัดฟันเซรามิก จัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบดามอน (damon) หรือจัดฟันแบบใส invisalign โดยคนไข้สามารถอ่านรายละเอียด ทั้งข้อดี-ข้อเสีย เทคนิคเลือกคลินิกจัดฟันที่ไหนดี รวมถึงวิธีการดูแลรักษาระหว่างที่จัดฟัน และราคาจัดฟัน

ปัญหาต่าง ๆ ที่ควรเข้ารับการดัดฟันมีดังนี้

1. ฟันซ้อนเก (Over Crowding)
2. ภาวะสบลึก (Deep overbite)
3. การสบฟันหน้าไม่สนิท (Open bite)
4. ขากรรไกรบนยื่น (Overjet)
5. ขากรรไกรล่างยื่น (Under-bite)
6. การสบฟันแบบไขว้ (Cross-bite Occlusion)
7. ช่องว่างระหว่างฟัน

ลักษณะฟันที่ต้องการจัดฟัน แสดงการสบฟันที่ผิดปกติ ชนิดฟันสบเปิด ฟันสบลึก
[row_inner_3] [col_inner_3 span__sm=”12″]
การสบฟันที่ผิดปกติ ชนิด ฟันเก และ ฟันห่าง ต้องได้รับการรักษ ทันตกรรมจัดฟัน
[/col_inner_3] [/row_inner_3]

ปัญหาการเรียงตัวของฟัน

หลาย ๆ คนอาจมีข้อสงสัยว่าทำไมการเรียงตัวของฟันของแต่ละคนถึงแตกต่างกันหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง สาเหตุของความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงแบ่งออกได้ 3 ปัจจัยคือ

กรรมพันธุ์:

  • การเรียงตัวของฟันแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์
  • ขนาด รูปร่างและความสัมพันธ์ระหว่างขากรรไกรบนและล่างไม่สัมพันธ์กัน
  • ขนาดของฟันใหญ่หรือเล็กในแต่ละบุคคล ฟันยื่น ฟันซ้อนเก

สิ่งแวดล้อม:

  • จำนวนฟันที่ถูกถอนฟันหรืออุบัติเหตุ ก็อาจทำให้ฟันที่เหลืออยู่ขาดสมดุล เกิดล้มหรือเอียงได้ครับ
  • มีฟันเกิน จนเกิดการเบียดอยู่ในช่องปากทำให้เรียงตัวไม่สวยงาม
  • การถอนฟันน้ำนมก่อนเวลาที่สมควร

นิสัยที่มีผลต่อฟัน:

  • การดูดนิ้ว กัดเล็บ การกลืนโดยเอาลิ้นดุนฟัน การหายใจทางปาก อาจทำให้ ฟันห่าง ฟันยื่น
ลักษณะฟันที่ต้องการจัดฟัน ฟันล่างคร่อมฟันบน และฟันบนคร่อมฟันล่างมากเกินไป
ลักษณะฟันที่ต้องการจัดฟัน ฟันล่างคร่อมฟันบน และ-ขากรรไกรสบเยื้อง

ข้อดีของการจัดฟัน

การจัดฟัน ช่วยปรับแนวฟันให้เรียงตัวเป็นระเบียบ และช่วยรักษาสุขภาพช่องปากดีขึ้น ลดปัญหาฟันผุได้ เพราะฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบนี้ เป็นที่มาของเศษอาหาร ที่ไปอยู่ตามซอกหลืบของฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฟันผุ
เมื่อฟันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็ทำให้การดูเเลรักษาฟันก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น การดูเเลฟันให้ดีเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้คุณรักษาฟันให้อยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต
การดัดฟันช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่ ดูสมส่วนขึ้น จากคนที่ประสบปัญหาฟันสบลึกดูฟันล่างยื่น หรือฟันเหยินไม่กล้าหัวเราะหรือยิ้มได้เต็มที่ ก็กลับมามั่นใจ จากรอยยิ้มเเละฟันที่สวยงามได้

จัดฟันมีกี่แบบ?

ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดัดฟัน จะมีความสามารถออกแบบ วางแผน ไม่เพียงแต่ในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของฟันให้สามารถเลื่อนมายังตำแหน่งที่ถูกต้องและแต่ยังสามารถวางแผนการปรับเปลี่ยนรูปหน้า และรอยยิ้มให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจึงสามารถมีฟันที่เรียงเรียบร้อย ยิ้มสวย และประสิทธิภาพด้านการบดเคี้ยวอีกด้วย ประเภทการจัดฟันมี ดังนี้

รูปแบบชนิดของการจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

การจัดฟันแบบติดแน่น: เป็นวิธีจัดฟันที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลาย เครื่องมือทำด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะติดแน่น (METAL BRACKET) – จัดฟันแบบติดเครื่องมือ
การจัดฟันแบบ DAMON – จัดฟันแบบติดเครื่องมือ

การจัดฟันแบบถอดออกได้: เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน ผู้มารับบริการ เช่น Invisalign

จัดฟันใส INVISALIGN – จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ
จัดฟันใส CLEAR ALIGNER – จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ

ปัจจุบันการจัดฟันมีราคาที่ค่อนข้างหลากหลาย สามารถเลือกชนิดเครื่องมือได้ขึ้นอยู่กับความต้องการ และความจำเป็นของผู้เข้ารับบริการตาม life style ของแต่ละบุคคล โดยสามารถอ่านรายละเอียด ทั้งข้อดี-ข้อเสีย เทคนิคเลือกคลินิกจัดฟันที่ไหนดี รวมถึงวิธีการดูแลรักษาระหว่างที่จัดฟัน และราคาจัดฟัน ได้เลย

จัดฟันแบบโลหะ (แบบธรรมดา)

เป็นการจัดฟัน (Orthodontics) ด้วยเครื่องมือโลหะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นจะเลือกการจัดฟันวิธีนี้ โดยการติดเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน ใส่ลวดผ่านร่องของแบร็คเก็ต (slot of bracket)  และใช้ยางโอริง (O-ring) สีสันสดใสรัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน และการเลือกสียางนี้ก็ยังช่วยบ่งบอกบุคลิกที่เป็นตัวตนของคุณ ทำให้คุณมีความสนุกกับการจัดฟันมากขึ้น

การจัดฟันแบบนี้เป็นที่นิยมจัดกันทั่วไป ส่วนใหญ่จะเลือกการจัดฟันแบบนี้ พบทันตแพทย์จัดฟันทุกๆ 4 สัปดาห์ เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน และเปลี่ยน O-ring และค่าใช้จ่ายการจัดฟันแบบนี้มีจะน้อยกว่าการจัดฟันชนิดอื่นๆ ถึงแม้ว่า จะเห็นเหล็กจัดฟัน แต่กระนั้น คนไข้ส่วนใหญ่ก็นิยม

ข้อดี:

วัสดุที่เป็นโลหะ ผิวเรียบเป็นมันวาว ทำให้คราบอาหารและ จุลินทรีย์ติดได้ยากกว่าวัสดุชนิดอื่น

เป็นการติดด้านนอกของฟัน จึงทำให้การทำความสะอาดได้ง่าย สะดวกขึ้น

ราคาที่ย่อมเยากว่าแบบอื่นๆ ถือว่าเป็น การจัดฟัน ราคาค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าตัวอื่น

สีสันของยางที่มีให้เลือกใช้ได้หลากหลาย

เหมาะกับใคร:

การจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับนักเรียน นักศึกษา ที่มีงบประมาณจำกัด และผู้ที่มีเวลาสามารถมาพบทันตแพทย์ได้บ่อย ๆ ครับ

อ่านเพิ่มเติม : จัดฟันแบบโลหะ

ทันตกรรมจัดฟัน เครื่องมือแบร็คเก็ต โลหะ และ เซรามิก

จัดฟันแบบเซรามิก Ceramic

จัดฟัน เซรามิก (Ceramic) เป็นการจัดฟัน ชนิดติดแน่น แบบเดียวกับการจัดฟันโลหะ แต่เปลี่ยนจากการใช้วัสดุโลหะมาใช้วัดสุแบบเซรามิกใส เป็นเครื่องมือที่มองเห็นได้น้อยมาก ที่ยึดติดกับผิวฟันด้านหน้า แล้วใส่ลวดผ่านร่องแบร็คเก็ต (Slot of Bracket) และใช้ยางแบบใสรัดเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน เพื่อช่วยควบคุมการเคลื่อนตัวของฟัน มีสีใกล้เคียงกับสีฟัน ทำให้ฟันเรียงตัวสวย

เครื่องมือ นี้ถูกออกแบบมาให้สีและความใสใกล้เคียงสีฟันมากที่สุด ดังนั้นจึงมองไม่ค่อยเห็นว่าคนไข้กำลังจัดฟันอยู่ แต่ก็ยังสามารถเห็นได้บ้าง เนื่องจากเครื่องมือยังติดอยู่ที่ด้านนอกของฟันอยู่ ระยะเวลาการพบทันตแพทย์เหมือนการจัดฟันแบบโลหะ แต่การจัดฟันเซรามิก มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไป แต่มีข้อเสียอีกอย่างคือ เครื่องมือชนิดนี้จะมีแรงเสียดทานเยอะ อาจจะส่งผลให้ระยะเวลาการรัษานานกว่าการจัดฟันแบบโละเล็กน้อย

เหมาะกับใคร: การจัดฟันแบบจัดฟันเซรามิก เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากให้คนสังเกตเห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ อาจจะด้วยเหตุผลทางหน้าที่การงาน หรือกลัวเสียบุคลิกในการทำงาน ต้องมาปรับเครื่องมือจัดฟันทุก ๆ 1 เดือน ใช้ระยะเวลาการจัดฟัน 2 ปีขึ้นไปครับ

จัดฟันแบบดามอน (Damon Bracket)

จัดฟันแบบดามอน เป็นการจัดฟันด้วย Bracket ชนิดดามอนซิสเต็ม (Damon System) ฟันจะเคลื่อนที่ได้อิสระกว่า เป็นการจัดแบบใหม่ คือ การเครื่องมือที่มีกลไกการบานพับขนาดเล็ก มีคุณสมบัติในการขันตัวเอง มีที่ยึดกับลวดอย่างหลวม ๆ มีประสิทธิภาพสูง เพื่อดึงให้ฟันเคลื่อนตัวโดยไม่ต้องใช้ใช้ยางรัดฟัน ซึ่งการใช้ยางรัดแบบเดิม (Metal Bracket) เป็นสาเหตของการมีแรงฝืดซึ่งทำให้การจัดฟันต้องใช้เวลานาน

จัดฟันดามอน มี 2 รุ่นคือ

การจัดฟันแบบโลหะติดแน่น  (Damon Q) ที่เป็นโลหะ
การจัดฟันแบบสีเหมือนฟัน (Damon clear) เป็นแบบใส

การจัดฟันแบบโลหะติดแน่น
ลักษณะก็จะคล้ายๆกับการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา แตกต่างกันที่ ระบบของตัวแบร็คเก็ต มีลักษณะเป็นบานเลื่อน (Self Ligation)  แทนที่จะร่องเฉยๆ (Slot) ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟันให้มีขนาดเล็กลงและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยการนำวัสดุต่างๆเช่น นิกเกิล ไททาเนียม และเซรามิก เป็นต้น ในการผลิตวัสดุที่ใช้ติดยึดบนฟัน และลวดที่ใช้ในการจัดฟัน

การจัดฟันแบบสีเหมือนฟัน
การจัดฟันประเภทนี้จะใช้วัสดุที่มีสีเหมือนฟันแทนการใช้โลหะ ซึ่งช่วยลดความสะดุดตาในการจัดฟัน หรือสังเกตุเห็นได้ยาก

เหมาะกับใคร: เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะสามารถดูเเลความสะอาดฟันได้ง่าย ลดโอกาสการเกิดฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบได้

อ่านเพิ่มเติม : จัดฟันดามอน

[row_inner_3] [col_inner_3 span__sm=”12″] [row_inner_4] [col_inner_4 span=”6″ span__sm=”12″]
เครื่องมือทันตกรรมจัดฟัน แบร็คเก็ตดามอน แบบโลหะ และ แบบใส
[/col_inner_4] [col_inner_4 span=”6″ span__sm=”12″]
เครื่องมือทันตกรรมจัดฟัน เครื่องมือจัดฟันแบบใส (Invisalign)
[row_inner_5] [col_inner_5 span__sm=”12″]

Woman photo created by wavebreakmedia_micro – www.freepik.com

[/col_inner_5] [/row_inner_5] [/col_inner_4] [/row_inner_4]

จัดฟันแบบใส Invisalign

จัดฟันแบบใส อินวิสไลน์  (Invisalign) เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ เป็นการออกแบบแผนการรักษาระหว่างทันตแพทย์ร่วมกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยในการที่จะสร้างอุปกรณ์จัดฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกับคนไข้แต่ละคน ที่ผลิตจากวัสดุคล้ายกับพลาสติกใส ใช้ใส่สวมครอบไปที่ตัวฟันทั้งหมด โดยไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันแบบเดิมๆ เพื่อช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน  ออกแบบมาเพื่อเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ต้องเปลี่ยนอินวิสไลน์ อันใหม่ทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ และทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าฟันจะเข้าที่   เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้ เป็นการออกแบบแผนการรักษาระหว่างทันตแพทย์ร่วมกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยในการที่จะสร้างอุปกรณ์จัดฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกับคนไข้แต่ละคน

การจัดฟันประเภทนี้ มีประสิทธิภาพในการจัดฟันเหมือนเหล็กจัดฟันแบบเดิม แต่แทบจะไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน ถ้าไม่ได้สังเกตดีๆ ทำให้ได้ประโยชน์ในแง่ความสวยงาม ไม่ต้องทนเจ็บจากเครื่องมือแบบติดแน่น สามารถถอดใส่ง่าย แต่จะต้องไม่ถอดเป็นเวลานานเกินไป เมื่อเสร็จธุระให้รีบใส่กลับทันที รับประทานอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ถึงแม้ว่า ราคาจะสูงกว่าการจัดฟันทั่วไปก็ตาม

การจัดฟันประเภทนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มดารา นักธุรกิจที่ต้องใช้หน้าตา และความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถจัดฟันได้โดยไม่ต้องใส่เหล็กดัดฟัน สามารถพูด หรือออกเสียงได้อย่างชัดเจน แต่มีราคาค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูงกว่าแบบเหล็ก 2-3 เท่า ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการซ้อนเกของฟัน อย่างไรก็ตาม คนไข้สามารถเข้ารับการปรึกษาฟรี ก่อนการตัดสินใจ

อ่านเพิ่มเติม : จัดฟันแบบใส Invisalign

[/col_inner_3] [/row_inner_3]

จัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

โดยทั่วไป คนไข้ที่ควรได้รับการจัดฟัน จะมีผิดความผิดปกติอยู่หลายส่วน

  1. ความผิดปกติแบบที่ 1 มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ฟัน เช่น ฟันมีขนาดไม่สมดุลย์กับเนื้อที่บนขากรรไกร เช่น ถ้าขากรรไกรมีเนื้อที่มากกว่า เนื้อฟัน ก็จะเกิดฟันห่าง แต่ถ้าขากรรไกรมีเนื้อที่น้อยกว่า เนื้อฟัน ก็จะเกิดฟันซ้อนเก  เป็นต้น
  2. ความผิดปกติแบบที่ 2 มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ความสมดุลย์ของขากรรไกรบนและล่างไม่สมดุลย์กัน เช่น ถ้าขากรรไกรบนยาวกว่า ขากรรไกรล่าง ลักษณะรูปหน้าก็จะเป็นแบบฟันบนยื่น แต่ถ้าขากรรไกรล่างยาวกว่า ขากรรไกรบน  ลักษณะรูปหน้าก็จะเป็นแบบคางยื่น เป็นต้น

ในกรณี ที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นเฉพาะที่ฟัน (ความผิดปกติแบบที่ 1)  ความผิดปกติประเภทนี้ก็ ก็จะรักษาโดยการจัดฟันอย่างเดียว ผลลัพธ์การจัดฟันก็จะเป็นที่น่าพอใจ คือ สวย

แต่ โดยส่วนใหญ่ คนไข้ที่ควรได้รับการจัดฟันจะมีความผิดปกติเกิดขึ้นไม่ได้มีเฉพาะที่ฟันเท่านั้น แต่ยังมีที่โครงสร้างใบหน้าส่วนล่างไม่ได้สมดุลกันด้วย (ผสมกันทั่งแบบที่ 1 และที่ 2 ) คราวนี้ก็จะขึ้นอยู่กับความผิดปกติแบบไหนจะมากกว่ากัน ถ้า

  • ความผิดปกติทั้งแบบที่ 1 และ ที่ 2 ผสมกันโดยแบบที่1 > 2  การรักษาก็จะยากขึ้น ซึ่งทางการแพทย์เรียกการรักษาแบบประณีประนอม (Compromised Treatment) อาจจะต้องใช้เครื่องมืออื่นๆเสริมช่วยในการจัดฟันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยังสวยอยู่แต่อาจจะไม่สวยเท่าคนไข้ที่มีความผิอปกติเฉพาะที่ฟันเท่านั้น
  • ความผิดปกติทั้งแบบที่ 1 และ ที่ 2 ผสมกันโดยแบบที่ 2 > 1 คือมีความผิดปกติที่โครงสร้างมากขึ้น ความผิดปกติแบบนี้ การรักษาก็จะยากขึ้นไปอีก ถ้าเป็นในผู้ใหญ่  (19-20 ปี) แผนการรักษาจะต้องอาศัยการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน (Orthognathic Surgery) จึงจะได้ผล (สวย) แต่ถ้าเป็นเด็ก (ยังมีการเจริญเติบโตหลงเหลืออยู่) ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้ แต่ต้องใช้เครื่องมือที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกรได้ (Dentofacial Orthopedics)

ดังนั้น การจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร ต้องอาศัยนอกจากหมอจัดฟันแล้วยังต้องอาศัยหมอศัลยกรรมช่องปากด้วย สามารถอ่านลายระเอียดเพิ่มเติมได้

อ่านเพิ่มเติม :  การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

[row_inner_3] [col_inner_3 span__sm=”12″]
ทันตกรรมจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร ก่อน หลังการรักษา
[/col_inner_3] [/row_inner_3]

ขั้นตอนการจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟันจะมีข้อแตกต่างในแต่ละประเภทของการจัดฟัน เช่น การจัดฟันด้วยเครื่องมือเเบบติดเเน่น และการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ แต่การเตรียมตัวก่อนจัดฟันคล้ายกัน ดังนี้

ปรึกษาทันตแพทย์ บอกเล่าปัญหาของการสบฟัน สิ่งที่ต้องการหลังจากจัดฟันเสร็จ ให้หมอจัดฟันทราบ ตรวจวินิจฉัยปัญหาของแต่บุคคล ตรวจรูปหน้า โครงสร้างกระดูกขากรรไกรและฟัน พร้อมทั้งซักประวัติ เช่น มีโรคประจำ ประวัติการแพ้ยา หรือยาที่กำลังใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาหลายๆแผน พร้อมทั้งอธิบายถึงข้อดีข้อเสียในแต่ละแผนการรักษาที่เหมาะสม โดยคนไข้จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกแผนการรักษานั้นๆ  เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจว่าแบบไหนตรงความต้องการมากที่สุดครับ รวมถึงพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา

ถ่ายภาพนอกและในช่องปาก x-ray  พิมพ์ปาก สร้างแบบจำลองฟัน การสแกนฟันดิจิตอล (สำหรับ การจัดฟันแบบใส)
คนไข้ต้องทำการพิมพ์ฟัน และ x-ray ประมาณ 2-3 ฟิล์ม แล้วแต่กรณี ได้แก่ Panoramic, Lateral cephalometric หรือ Postero-Anterior cephalometric เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการวินิจฉัย ประเมินฟัน กระดูกขากรรไกรบนและล่าง ดูการสบของฟัน และออกแบบการจัดฟันเพื่อให้เข้ารูปสวยงาม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดฟันแบบใส จะมีการสแกนช่องปากดิจิตอล (Intra oral scanning) เพิ่มเติมเพื่อนำส่งไปที่แลบเพื่อขึ้นชิ้งานจัดฟัน (Aligner)

เตรียมช่องปากให้พร้อมก่อนการจัดฟัน โดยเช็คสุขภาพในช่องปากก่อนเริ่มการจัดฟัน เช่นขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน รักษารากฟัน หรือ ผ่าฟันคุด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของสุขภาพช่องปาก และฟัน ก่อนที่จะติดเครื่องมือจัดฟัน เพราะถ้าติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว แล้วต้องทำการอุดฟัน หรือ ทำการรักษาฟันใดๆ จะทำให้การรักษานั้นยุ่งยาก และทำด้วยความลำบากมากยิ่งขึ้น และเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบ ในระหว่างการจัดฟัน

นัดติดเครื่องมือ ขั้นตอนนี้จะแยกออกเป็น 2 รูปแบบ

  • จัดฟันโดยติดเครื่องมือแบบติดแน่น  (แบบที่มองเห็นเครื่องมือบนผิวฟัน) เเละนัดทุกๆ 1 เดือน เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน ติดตามดูการเคลื่อนที่ของฟัน ใช้ระยะเวลาในการรักษา 2-3 ปี หลังจากติดเครื่องมือไป 1 วัน อาจจะรู้สึกปวดตึง ถ้าปวดมากในระยะแรก ก็สามารถทานยาแก้ปวดได้
  • จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ หรือจัดฟันใส (ซึ่งจะสามารถถอดออกได้ระหว่างจัดฟัน) ซึ่งจะช่วยปรับตำแหน่งของฟัน ทันตแพทย์จะนัดใส่เครื่องมือจัดฟัน (Aligner) พร้อมแนะนำวิธีการดูแลระหว่างใส่ เพราะการจัดฟันวิธีนี้สามารถถอดออกได้ระหว่างจัดฟัน โดยเครื่องมือถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล โดยเครื่องมือจัดฟันจะส่งแรงกดไปบนฟันเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่บนกระดูกขากรรไกร จากนั้นทันตแพทย์จะนัดเปลี่ยนชุดเครื่องมือตามแผนที่วางไว้ ในการนัดหมายแต่ละครั้ง คนไข้ควรจะต้องมาให้ตรงตามนัด

นัดหมายเพื่อปรับอุปกรณ์ ซึ่งเครื่องมือจัดฟันแต่ละชนิดก็จะมีการนัดหมายที่แตกต่างกันออกไป (โดยทั่วไปเดือนละ 1 ครั้ง) ซึ่งในการนัดหมายแต่ละครั้ง คนไข้ควรจะต้องมาให้ตรงตามนัด เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด

การดูแลช่องปากและฟันหลังติดเครื่องมือจัดฟัน ในระหว่างจัดฟันต้องการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างดี เช่น แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี และสม่ำเสมอ เข้าพบทันตแพทย์ตรวจเช็คช่องปาก ขูดหินปูน ทุก 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดเหงือกอับเสบระหว่างการจัดฟัน

นัดถอดเครื่องมือ เมื่อจัดฟันเสร็จเรียบร้อยและเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทันตแพทย์ก็จะนัดถอดเครื่องมือจัดฟัน และจะให้ใส่รีเทนเนอร์ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสวยงามตลอดเพื่อให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสวยงามตลอดไป

ติดตามผล (Recheck Retainer) ทันตแพทย์จะนัดติดตามการใส่รีเทนเนอร์ทุก ๆ 1 เดือน 6 เดือน และทุก ๆ 1 ปี ระยะเวลาการใส่รีเทนเนอร์ ขึ้นอยู่กับผู้มารับบริการแต่ละราย

FAQ : จัดฟันกับคำถามที่พบบ่อยๆ

เลือกว่าจะจัดฟันร้านทำฟันที่ไหนควรเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีทันตแพทย์จัดฟัน มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ใกล้บ้าน เนื่องจากเป็นการรักษาต่อเนื่อง กินเวลา 2-3 ปี ดังนั้นเลือกใกล้บ้านหรือที่ทำงานดีที่สุด

จัดฟันเจ็บไหมกรณีที่เป็นการจัดฟันแบบติดแน่นก็จะมีการปวดบวมอยู่ 5-7 วัน สามารถทานยาแก้ปวดได้ เเต่หลังจากหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป อาการปวดตึงจะค่อยๆลดลง
กรณีที่จัดฟันแบบใส อาจพบว่ามีการปวดตึงบ้าง 1-2 วัน หลังจากใส่เครื่องมือจัดฟันใสชุดใหม่

ระยะเวลาการเคลียร์ช่องปากของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากแต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน เช่นบางคนมีฟันผุมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนต้องถอนฟัน บางคนไม่ต้องถอนฟัน เป็นต้น

การจัดฟันช่วยในเรื่องการเรียงตัวของฟันให้เป็นระเบียบมากขึ้น เเม้ว่าการดัดฟันจะไม่ได้เป็นการเปลี่ยนเเปลงโครงหน้าโดยตรง เเต่ในบางรายที่หลังจากจัดฟันเเล้วหน้าดูเรียว หน้าเล็กลง ดูมีคางชัดขึ้น หรือดูจมูกโด่งขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาและการปรับตัวของช่องปากของคนไข้เอง โดยเฉพาะ ต้องฝึกการกลืน การพูด การหายใจทางจมูก การวางตำแหน่งลิ้น ถ้าสามารถทำตามที่แพทย์แนะนำ ก็จะทำให้ผลลัพธ์สวยยิ่งขึ้น และใส่รีเทนเนอร์น้อยลง

  • คนไข้ที่มีฟันยื่น ทำให้ปากดูอูม ภายหลังเมื่อฟันเข้าที่ก็เห็นส่วนของจมูกและคางเด่นขึ้นมาก
  • คนไข้ที่มีฟันบนคร่อมฟันล่าง เมื่อจัดฟันเสร็จ ทำให้ฟันสบกันได้ถูกตำแหน่ง มองเห็นฟันบนได้ชัดขึ้น ริมฝีปากบนล่างได้สัดส่วนสัมพันธ์กัน นอกจากนี้อาจจะทำให้ดูหน้ายาวขึ้นด้วย
  • คนไข้ที่มีการผ่าตัดขากรรไกร เพื่อแก้ปัญหาขากรรไกรยื่น ทำให้ฟันไม่สบกัน หลังการผ่าตัดขากรรไกรและจัดฟันเเล้ว ทำให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไป

สรุปเเล้วคือตำแหน่งคางหรือจมูกนั้นอยู่ที่เดิม เมื่อสัดส่วนของรูปแบบฟันเปลี่ยนจึงทำให้สัดส่วนโดยรวมของหน้าดูเปลี่ยนแปลงไปด้วย

สำหรับผู้ที่จัดฟันควรทานอาหารเคี้ยวง่าย ชิ้นเล็ก ไม่แข็งเกินไป หรือมีความเหนียวที่ต้องออกเเรงเคี้ยวมาก เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป ก๋วยเตี๋ยว ไข่ตุ๋น อาหารพวกเนื้อสัตว์ที่มีความอ่อนนุ่ม  ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวน้ำแข็ง กระดูกสัตว์ อาหารหรือผลไม้ชิ้นใหญ่ๆ สำหรับหมากฝรั่ง บางกรณีต้องเคี้ยวบ่อยๆ เช่น พวกที่มีกรามเนื้อบดเคี้ยวไม่แข็งแรง (Hypotonic of Masticatory Muscle)

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการจัดฟัน ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพื่อพิจารณาวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล โดยตัวคนไข้เองต้องมีส่วนร่วมฝนการตัดสินใจในการจัดฟันด้วย อาทิ ความจำเป็นจะต้องถอนฟันหรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องถอน จะต้องถอนกี่ซี่ หรือบางคนไม่จำเป็นต้องถอน สามารถใช้เครื่องมืออื่น เช่น สปริง (Forsus) หมุดปักฟัน (TADs) ในการช่วยรักษาจัดฟันได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องประเมินจากโครงสร้างฟันและใบหน้าของแต่ละคน

  • ตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์จัดฟัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ฟันหน้าของคุณฉีกหรือดึงอาหาร ใช้ฟันกรามบดเคี้ยว ช่วยบรรเทาอาการปวดฟันหน้าได้ เพราะฟันกรามมีความหนาบดเคี้ยวได้ดี
  • ควรจะกินอาหารช้าๆ การเคี้ยวเร็วเกินไป อาจจะเกิดอาการปวดและการอักเสบขึ้นในฟันของคุณได้

การจัดฟันโลหะเริ่มต้นที่ถูกที่สุด อบู่ที่ 30,000 บาท

จัดฟันแบบใส คือ การจัดฟันแบบถอดได้ชนิดหนึ่ง ที่ลักษณะเครื่องมือคล้่ยๆกับถาดฟอกสีฟัน แตมีการใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยในการออกแบบการรักษา ซึ่งในปัจจุบันที่สามารถออกแบบได้แม่นยำที่สุด ตือ Invisalign

อันที่จริงมีหลายบริษัทมากที่ทำออกมาขาย แต่ยังไม่ดีเท่า invisalign เพราะตัว Invisalign เองมีการเก็บข้อมูลมามากกว่า 10 ปี ทำให้มีข้อมูลมากพอ (Big Data) ที่จะออกแบบเครื่องมือได้ถูกต้องแม่นยำ ตรงกับคงามต้องการของคนไข้มากที่สุด

การจัดฟันแบบดามอน เป็นการจัดฟันแบบติดแน่นทั่วไป แต่ต่างกันที่ลักษณะเครื่องมือที่เรียกแบร็คเก็ต (Bracket) จะมีกลไกเสริมเข้ามาเป็นแบบ บานเลื่อน ปิด เปิดได้ ไม่ต้องใช้ยางรัดให้ลวดติดกับแบร็คเก็ต ซึ่งทางดามอนเคลมว่า สามารถลดแรงเสียดทานได้ (Friction) ทำให้ฟันเคลื่อนเร็ว และเจ็บน้อยกว่า แต่จากประสบการณ์ เคื่องมือทุกอย่างจะมีข้อดีข้อเสีย ซึ่งการที่เครื่องมือเป็นแบบไร้แรงเสียดทานก็จะเป็นข้อเสียในการจบเคสให้สวยตามมาตรฐานได้ยาก ซึ่งเครื่องมือแบบเดิม (โลหะ) จะทำงานส่วนนี้ได้ดีกว่า

การจัดฟันแบบใสของเราใช้ Invisalign ซึ่งถือว่าดีที่สุด แม่นยำที่สุด ละเอียดที่สุด ในขณะนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 69,000 บาท ส่วนยี่ห้ออื่น ยังไม่นำเข้ามาใช้เนื่องจากยังไม่มีรายงานเคสมากพอที่จะมารักษาคนไข้ในคลินิกได้ คงต้องรออีกพักใหญ่ๆครับ ถึงจะปลิดภัยเพียงพอ

วิธีการการจัดฟันใน ปัจจุบันการจัดฟันมีหลากหลาย สามารถเลือกชนิดเครื่องมือได้ขึ้นอยู่กับความต้องการ และความจำเป็นของผู้เข้ารับบริการตาม life style ของแต่ละบุคคล

รูปแบบชนิดของการจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

การจัดฟันแบบติดแน่น: เป็นวิธีจัดฟันที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลาย เครื่องมือทำด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะติดแน่น (METAL BRACKET) – จัดฟันแบบติดเครื่องมือ
การจัดฟันแบบ DAMON – จัดฟันแบบติดเครื่องมือ

การจัดฟันแบบถอดออกได้: เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน ผู้มารับบริการ เช่น Invisalign

จัดฟันใส INVISALIGN – จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ
จัดฟันใส CLEAR ALIGNER – จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ

การจัดฟันทำให้หน้าเปลี่ยนได้จริง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับ

ความผิดปกติของแต่ละคน

การตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคน

ราคาจัดฟันขึ้นอยู่กับความยากง่าย  ที่ง่ายที่สุดและมีการติดเครื่องมือจัดฟัน จะอยู่ที่ 30,000 บาท

โดยทั่วไป การจัดฟันไม่สามารถทำให้ฟันเหลืองได้ การมีฟันเหลืองขณะจัดฟัน ส่วนใหญ่เกิดจาดจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของเราเอง เช่น ดูดบุหรี่ ทานอาหารที่มีสี ดื่มกาแฟ หรือโค้ก เป็นประจำ และที่สำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดให้ทั่วถึงและสม่ำเสมอ ก็จะแก้ปัญหาฟันเหลืองขณะจัดฟันได้

คนที่ต้องได้รับการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร จะเป็นกลุ่มคนที่มีความผิดปกติที่กระดูกขากรรไกรมากๆ จนการจัดฟันธรรมดาอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ต้องอาศัยการผ่าตัดร่วมด้วยจึงจะสำเร็จ

การจัดฟันแล้วเหงือกร่น ถ้าเป็นการจัดฟันที่ถูกวิธีแล้วจะเกิดได้น้อยมาก โดนส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากการดูแลสภาพของตัวคนไข้เอง แล้วถ้าเกิดเหงือกร่น และมีอาการเสียวหรือขาดความสวยงาม ก็จะต้องแก้ไขโดยการปลูกเหงือก

สาเหตุของฟันห่าง มีสาเหตุได้จากหลายกรณี เช่น

ฟันห่าง เนื่องจากเคยถอนฟันบางซี่ไป กรณีนี้อาจจะจัดฟันปิดช่องฟันที่ห่างได้ ซึ่งแล้วแต่สภาพการสบฟันว่าเหมาะสมที่จะจัดฟันหรือไม่

ปัญหาฟันห่าง เนื่องจากซี่ฟันเล็กบางซี่ วิธีการรักษาก็คือ จัดฟันเพื่อเตรียมช่องว่างสำหรับการเติมฟันต่อไป แต่ก็มีในบางกรณีสามารถปิดช่องว่างทั้งหมดด้วยการจัดฟันได้

ฟันมีฃ่องว่าง เนื่องจากซี่ฟันเล็กทุกซี่ เมื่อเทียบกับขนาดของขากรรไกร กรณีนี้ อาจจะจัดฟันเพื่อจัดระเบียบฟันแฃะช่องว่าง เพื่อให้เหมาะสมกับการเติมฟันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

ฟันที่ห่างเนื่องจากสมดุลย์ภายในช่องปากไม่ดี กรณีต้องจัดฟันร่วมกับการฝึกการวาง ขณะพักและขณะกลืนน้ำลายหรืออาหาร (Oro Myofascial Disorder, OMD) การจัดฟันความผิดปกติชนิดนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไข้อย่างมาก ถ้าคนไข้ไม่ให้ความร่วมมือที่ดีพอ ผลการรักษาก็จะไม่ได้ผล

การมีฟันเหยินเป็นข้อบ่งชี้อย่างหนึ่งในการมีความจำเป็นต้องจัดฟัน นอกจากจะเป็นการป้องกันการได้รับอุบัติเหตุที่ฟันหน้าแล้ว ยังทำให้เจ้าของฟัน ไใ่กล้ายิ้ม แสดงออก ทำให้เสียบุคคลิกภาพด้วย

โดยส่วนใหญ่ มักเริ่มทำในเด็กมีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คืออายุประมาณ 11-13 ปี  แต่ในทางหลักวิชาการนั้น ให้เริ่มตรวจฟันเพื่อการจัดฟันตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป เพื่อลดความรุนแรงของปัญหา หรือเพื่อป้องกันการไม่ให้เกิดการพัฒนาไปเป็นความผิดปกติที่มีความรุนแรงขึ้น เช่นการจัดฟันหน้าบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกต่อฟัน หรือเพื่อยับยั้งหรือเร่งการเจริญเติบโตของโครงสร้างใบหน้าบางส่วน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ปกครอง ความร่วมมือของคนไข้ และความเห็นของทันคแพทย์ของท่านนั้นๆ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การจะเริ่มการรักษาจัดฟันเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่จะเเริ่มจริงๆก็เริ่มได้ตั้งแต่ 8 ปีเลย