สารบัญ

ฟอกสีฟัน คือ อะไร

ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่คลินิก

ผลข้างเคียงจากการฟอกสีฟัน

สรุป

ฟอกสีฟันราคาถูก

ฟอกสีฟัน ด้วยระบบ I-BRITE TECHNOLOGY เป็นการฟอกฟันขาว ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการลบคราบต่างๆ ที่เกิดจากการทานอาหารซึ่งยังติดแน่นอยู่บนผิวฟันออกไปได้ รวมทั้งยังเป็นการ ฟอกสีฟันราคาถูก แก้ฟันเหลือง ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยการฟอกฟันขาวเป็นการรักษาที่ช่วยให้ฟันที่คล้ำหรือเหลืองมีสีขาวขึ้น โดยอาศัยน้ำยาฟอกสีฟันและกระตุ้นการแตกตัวของน้ำยาฟอกสีฟันด้วยระบบแสง

ฟอกสีฟัน คือ อะไร

ฟอกสีฟัน คือ การทำให้ฟันที่มีสีคล้ำ ดูขาวขึ้น โดยใช้ น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงป้ายลงบนฟัน และกระตุ้นด้วยระบบพลังงานแสง Cool Light LED หรือ เลเซอร์ เพื่อกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันเกิดการแตกตัวออกเป็นออกซิเจน แทรกซึมผ่านชั้นผิวเคลือบฟัน เข้าไปขจัดเม็ดสีในเนื้อฟันโดยเฉพาะสีเหลือง ซึ่งก็จะทำให้ฟันขาวขึ้น โดยที่ไม่ทำร้ายชั้นผิวเคลือบฟันครับ (ชั้นนอกสุดของฟัน) ทำให้ ฟันขาวขึ้น และด้วยความสะดวกนี้ จึงทำให้การฟอกสีฟัน เป็นการรักษาที่เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยจะมีการ ฟอกสีฟันที่คลินิก โดยทันตแพทย์ หรือจะใช้วิธี การฟอกฟันขาวที่บ้าน ด้วยตัวเอง ก็ได้

การฟอกฟันขาว ทำให้ฟันขาวได้ยังไง

การฟอกฟันขาว ทำได้ โดยใช้ น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงป้ายลงบนฟัน และกระตุ้นด้วยระบบพลังงานแสง Cool Light LED หรือ เลเซอร์ เพื่อกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันเกิดการแตกตัวออก เป็นโมเลกุลของออกซิเจน ซึ่งโเลกุลของออกซิเจนสามารถแทรกซึมผ่านชั้นผิวเคลือบฟัน เข้าไปขจัดเม็ดสีในเนื้อฟันโดยเฉพาะสีเหลืองค่อยๆจางลง ซึ่งก็จะทำให้ฟันขาวขึ้น โดยที่ไม่ทำร้ายชั้นผิวเคลือบฟันครับ (ชั้นนอกสุดของฟัน)

ปัจจัยที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสีมีได้ 2 สาเหตุ

ปัจจัยภายนอก ได้แก่ การกระแทก มีการสะสมของคราบ หรือสีบนฟัน คือ บุหรี่ เครื่องดื่ม สีของอาหาร แปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีคราบอาหาร แบคทีเรีย และหินปูนสะสมบนเนื้อฟัน รวมมถึง อายุมากขึ้น ทำให้เกิดการสะสมของเม็ดสีในเนื้อฟัน

ปัจจัยภายใน ได้แก่ การสะสมของสารมีสีในเนื้อฟันในช่วงสร้างฟัน เช่น

1.ความผิดปกติของสีฟันที่เกิดจากการรับประทานยา จำพวก Tetracycline ในวัยเด็ก ที่เป็นช่วงของการสร้างฟัน ทำให้สีฟันเป็นสีเหลือเข้ม น้ำตาล หรือเทา
2.การได้รับสารฟลูโอไรด์เกินขนาด จะทำให้ฟันนั้นสูญเสียเคลือบฟัน และทำให้ฟันเหลืองและเป็นรอยฝ้าขาวได้
3.ฟันตาย ทำให้ฟันเหลือง มากจนกลายเป็นสีน้ำตาล
4.การฟอกสีฟันที่คลินิกโดยทันตแพทย์ (In-office power bleaching)
5.การฟอกฟันขาวแบบ In-office teeth whitening
6.คือการไปทำการฟอกสีฟันที่คลินิกหรือสถานพยาบาลโดยทันตแพทย์นับว่าเป็นวิธีที่ “ปลอดภัยที่สุด ได้ผลดีมากที่สุด และ ใช้เวลาไม่นาน” โดยในปัจจุบันการฟอกสี7.ฟันด้วยระบบแสงเย็น เป็นวิธีการฟอกสีฟันขาวโดยที่ไม่ทำลายเนื้อฟัน และเห็นผลถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 45 นาที

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากฟอกฟันด้วยระบบแสงเย็น แล้ว ฟันของคุณจะคงความขาวได้นานเท่าใดก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วย และสำหรับบางคนอาจจะมีอาการเสียวฟันหลังจากทำเสร็จใหม่ๆ ซึ่งในอาการดังกล่าวก็อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน

ผู้ที่เหมาะในการรับการฟอกสีฟัน คือ

1.พวกวัยทำงาน ประกอบอาชีพที่ต้องใช้รอยยิ้ม พูดคุย และติดต่อประสานงานกับผู้อื่น
2.สีฟันเหลืองหรือเหลืองเข้มมากกว่าปกติ
3.สีฟันเข้มจากการทานยาTetracyalinในช่วงสร้างฟัน ทำให้มีสีน้ำตาลหรือเทาดำ แต่มีสีเทาดำไม่มากนัก และมีสีเหลืองปนอยู่ค่อนข้างมาก
4.ฟันเหลืองจากการทานฟลูออไรด์มากเกินไปในช่วงสร้างฟัน
5.ผู้ที่ชอบดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์เป็นประจำ
6.ผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัด

ใครบ้างไม่ควรฟอกสีฟัน ?

1.อายุน้อยกว่า 16 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่โพรงประสาทหรือเส้นประสาทในฟันยังมีการเจริญเติบโตอยู่ ทำให้เกิดความระคายเคืองหรือเสียวที่โพรงฟันได้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
2.ผู้ที่มีปัญหาโรคเหงือกหรือใส่ครอบฟัน รวมถึงผู้ที่มีอาการแพ้สารเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
3.ผู้ที่มีปัญหาเสียวฟัน เหงือกร่น หรือมีฟันที่ถูกอุดโพรงฟันที่เป็นหลุมหรือมีรากฟันโผล่ออกมา เนื่องจากสารฟอกฟันขาวจะแทรกซึมผ่านไปยังส่วนของฟันที่ผุและพื้นที่ด้านในของฟันจนก่อให้เกิดอาการเสียวฟันได้ ดังนั้นควรได้รับการรักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน
4.ฟันสีออกน้ำตาล จะมีการตอบสนองต่อการฟอกสีฟันได้น้อย และหากเป็นคราบสีเทาหรือม่วงก็อาจไม่ตอบสนองเลย โดยเฉพาะคราบสีเทาอมฟ้าที่เกิดจากการใช้ยาเตตราไซคลีน (Tetracycline) ซึ่งจะทำให้ขาวขึ้นได้ยาก ซึ่งใช้วิธีการทำ วีเนียร์ จะดีกว่า

*ฟอกสีฟันขาว ฟอกฟันขาว มีกี่แบบ ขาวจริงไหม*

มีฟันปลอมฟอกสีฟันได้หรือไม่

วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมในปากจะไม่ขาวขึ้นจากการฟอกสีฟัน ส่งผลให้ฟันปรากฏเห็นเป็นสีไม่สม่ำเสมอ และยังทำให้ฟันซี่ที่ปกติมีสีขาวโดดเด่นกว่าฟันที่มีวัสดุดังกล่าว จึงควรฟอกสีฟันก่อนการรักษาฟันด้วยวัสดุเหล่านี้

คนที่มีฟันที่เป็นปัญหาหลายซี่ ผลการฟอกฟันอาจทำให้สีของฟันไม่สม่ำเสมอ ทางที่ดีควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงการรักษาด้วยวิธีอื่นแทน เช่น ใส่ครอบฟันหรือใช้วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน
ผู้ที่มีฟันเป็นคราบสีเข้ม

ประเภทของการฟอกสีฟัน การฟอกสีฟันจึงมีด้วยกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีนั้นๆแบ่งออกเป็น 5 วิธีดังนี้

Office Bleaching การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่คลินิก ใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง ร่วมกับ Cool Light LED วิธีนี้นิยมมากเพราะปลอดภัย ทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ ใช้ระยะเวลาไม่นาน และเห็นผลทันทีหลังทำ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วยนะครับ

Home Bleaching การฟอกสีฟันที่ให้นำกลับไปทำเองที่บ้านภายใต้การควบคุมของ
ทันตแพทย์ โดยทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อเตรียมถาดฟอกสีฟันให้ จากนั้นจะทำการจ่ายน้ำยาฟอกสีฟันให้นำกลับไปใส่เวลานอน คำแนะนำในการใช้ ข้อดีคือสะดวกสบาย แต่ใช้ระเวลานาน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี

Office assisted Bleaching เป็นการฟอกสีฟันที่ทำร่วมกันระหว่าง ข้อ 1 กับข้อ 2 คือการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ ร่วมกับการฟอกสีฟันเองที่บ้าน ใช้ในกรณีที่ฟันมีสีเข้มมาก โดยทันตแพทย์จะฟอกสีฟันให้ที่โรงพยาบาลก่อน และจะมีอุปกรณ์ น้ำยาฟอกสีฟัน ให้นำกลับไปทำต่อเองที่บ้าน

Counter Bleaching การฟอกสีฟันที่สามารถทำเอง ไม่จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ สามารถทำได้เอง โดยสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ เช่น แถบฟอกสีฟัน ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาว น้ำยาบ้วนปากฟอกฟันขาว ที่มีวางจำหน่ายตามร้านค้าและร้านขายยา หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ทั่วไป

Internal Bleaching การฟอกสีฟันเฉพาะซี่ที่ต้องทำโดยทันตแพทย์ เพราะเป็นการฟอกสีฟันที่เปลี่ยนสีเนื่องจากฟันตาย ซึ่งมักมีการเปลี่ยนสีของฟันเฉพาะซี่ ไม่ได้เปลี่ยนสีทั้งปาก

การจะเลือกฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาวแบบไหนดี จะเห็นได้ว่าแต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมกับแต่ละสาเหตุ และระดับความเข้มของสีฟันที่แตกต่างกันไปนะครับ ซึ่งทันตแพทย์จะให้คำแนะนำปรึกษา เพื่อให้ได้วิธีที่ดีและเหมาะสมที่สุดกับฟันของแต่ละบุคคลครับ

ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่คลินิก

1. เตรียมผิวฟัน

ทันตแพทย์จะตรวจเช็คสุขภาพช่องปากขูดหินปูน หากมีฟันผุจะแนะนำให้อุดฟันก่อน
วัดระดับสีฟันก่อนการรักษา
ใส่เครื่องมือภายในปากเพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายเมื่อต้องอ้าปากนาน และใส่ที่ปกป้องเหงือก

2. ฟอกสีฟัน

ทันตแพทย์จะทำการทาน้ำยาฟอกสีฟัน และใช้เครื่อง Cool light LED โดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
หลังจากฟอกฟันครบเวลา ทันตแพทย์จะล้างน้ำยาฟอกฟันออกและเปรียบเทียบสีของฟันหลังจากทำเสร็จ และให้คำแนะนำในการดูแลฟัน

วิธีดูแลฟันหลังจากการ ฟอกสีฟัน

ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจากการฟอกฟัน

บางรายอาจมีอาการเสียวฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้ ยาสีฟันที่ลดอาการเสียวฟัน หรือทานยาแก้ปวดและหลีกเลี่ยงอาหารที่เย็นจัดหรือร้อนจัด

การดูแลหลังฟอกสีฟัน ให้ฟันขาวนานยิ่งขึ้น

ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น กาแฟ น้ำอัดลม ชา ไวน์ เพราะจะทำให้สีฟันค่อย ๆ เข้มขึ้น หากจำเป็นต้องดื่ม ควรบ้วนปากหลังดื่มเสร็จทุกครั้ง
งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้เกิดคราบบนผิวฟัน หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะทำให้ฟันกลับมาเหลืองเร็วกว่าคนที่ไม่สูบบหรี่
แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน ทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้องและเป็นประจำ จะทำให้เศษอาหารและคราบจากเครื่องดื่มติดบนผิวฟันได้ยาก
ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปาก และยาสีฟันที่มีสีเข้ม
ตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คการเกิดสีฟันที่ไม่สวยงามอื่นๆ เช่น สีฟันเข้มที่เกิดเกิดจากรอยผุ, ประสาทฟันตาย, คอฟันร่นในกรณีรากฟันสีเข้ม เป็นต้น
หลังจากฟอกสีฟันไปแล้ว ฟันอาจกลับมาเหลืองขึ้นทีละน้อย แต่ไม่ได้กลับไปเหลืองเท่าเดิม การดูแลรักษาให้สีฟันคงเดิมอาจทำการฟอกสีฟันชนิดทำที่บ้านเพิ่มเติมหลังจากฟอกสีฟันไปแล้ว3-4ปี

ผลข้างเคียงจากการฟอกสีฟัน

อาการเสียวฟันที่จะเกิดขึ้นชั่วคราวและมักเกิดในระยะแรกของการฟอกสีฟัน
ความรู้สึกระคายเคืองของเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากโดยเฉพาะบริเวณเหงือก ซึ่งส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากการสวมถาดฟอกสีฟันที่ไม่พอดีมากกว่าจะเป็นอาการระคายเคืองจากสารฟอกสี
ผลข้างเคียงจากการฟอกสีฟันจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและหายไปภายใน 1-3 วันหลังจากหยุดใช้หรือเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว
มีโอกาสเกิดอาการแสบร้อนที่เหงือก หรือชั้นเคลือบฟันได้รับผลกระทบเนื่องจากการฟอกสีฟันเองที่บ้าน

อาการเสียวฟันเป็นผลข้างเคียงจากการฟอกสีฟัน สามรถทำให้ลดลงได้ดังนี้

ลดระยะเวลา การฟอกสีฟันให้น้อยลง
หยุดฟอกสีฟันสัก 2-3 วันเพื่อให้ฟันได้ปรับตัวกับการฟอกสีฟัน
ใช้ยาสีฟันช่วยลดอาการเสียวฟัน
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยลดอาการเสียวฟัน หากใช้ถาดฟอกสีฟันให้ทาฟลูออไรด์ที่ถาดฟันแล้วใส่ไว้อย่างน้อย 4 นาทีก่อนเริ่มฟอกสีฟันตามมาปกติ

ฟอกสีฟันแบบไหนจะปลอดภัย ระหว่างฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ กับซื้อน้ำยามาทำเองที่บ้าน

การฟอกสีฟันแบบซื้อน้ำยามาทำเองที่บ้าน

การหาซื้อผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันมาใช้เองที่บ้านจะมีโอกาสเสี่ยงต่อสุขภาพของช่องปาก เช่น การระคายเคืองและอักเสบของเหงือก มีอาการเสียวฟัน หรือเกิดความเสียหายต่อประสาทฟันได้
ผลิตภัณฑ์ตามร้านขายยาใช้สารฟอกสีที่มีความเข้มข้นน้อยกว่ามาก ดังนั้นประสิทธิภาพในการรักษาจึงด้อยกว่า ทั้งนี้สำนักงานอย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่มีไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ตั้งแต่ 3.6-3.5 เปอร์เซ็นต์ต้องใช้ภายใต้การควบคุมโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อเหงือก ฟัน ช่องปาก รวมถึงทางเดินอาหาร กรณีที่มีการกลืนผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันเข้าไป
ถาดฟอกสีฟันที่หาซื้อได้ทั่วไปจะมาในรูปแบบและขนาดเดียวกันทั้งหมด แน่นอนว่าย่อมไม่พอดีกับปากของผู้ใช้ ส่งผลให้สารฟอกสีฟันซึมเข้าไปยังเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในปาก ทำให้เกิดการระคายเคืองตามมาได้

การฟอกสีฟันกับทันตแพทย์

ฟอกสีฟันแบบกลับบ้านโดยการดูแลของทันตแพทย์ แบบใช้ถาดฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะพิมพ์ฟันและทำถาดฟอกสีฟันโดยเฉพาะให้คนไข้รายนั้น ๆ ถาดฟันจึงเข้ากันได้อย่างพอดีกับปากและฟัน ช่วยให้ฟันสัมผัสกับเจลฟอกสีที่อยู่ในถาดได้โดยทั่ว และยังทำให้เจลไปสัมผัสโดนเหงือกน้อยลง ช่วยลดการระคายเคือง
ฟอกสีฟันแบบฉายแสงในคลินิก มีการป้องกันอันตรายให้ระหว่างการรักษา โดยจะทาเจลบนเนื้อเยื่อเหงือกหรือใช้แผ่นยางวางไว้ก่อนฟอก เพื่อไม่ให้เหงือกและช่องปากได้รับอันตรายจากสารฟอกสีฟันความเข้มข้นสูง ทำให้คนไข้สามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
มีการใช้สารฟอกสีที่มีความเข้มข้นกว่าในผลิตภัณฑ์ตามร้านขายยามาก ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงกว่า

คำถามที่พบบ่อยๆกับ การฟอกสีฟัน

ฟอกฟันส่งผลเสียกับฟันหรือเปล่า
หลังจากการฟอกฟันด้วยสารฟอกฟันที่มีความเข้มข้นเพียง 10-20% ผิวเคลือบฟันยังคงมีความแข็งแรงอยู่และไม่ได้สึกกร่อนง่าย อาจทำให้สีของอาหารติดฟันง่ายในช่วงวันสองวันแรกหลังจากการฟอกฟัน

ฟอกฟันแล้วฟันจะขาวขึ้นขนาดไหน
ไม่สามารถบอกระดับที่ชัดเจนได้ว่าแต่ละคนนั้นเมื่อฟอกฟันเสร็จแล้วจะฟันขาวขึ้นมาได้แค่ไหน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนฟอกเพียงครั้งเดียว ฟันก็ขาวเลย แต่บางคนต้องฟอกสีฟันหลายครั้งกว่าจะขาว

ฟอกสีฟัน ต้องทำกี่ครั้ง
ฟอกสีฟันครั้งแรกก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟันที่ขาวขึ้นได้ครับ แต่ทั้งนี้ระดับของความขาวนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย

ฟอกสีฟันใช้เวลาทำนานไหม
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

ฟอกสีฟันเสร็จแล้วขาวไปนานแค่ไหน
โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา เช่น การรับประทาน ดื่ม หรือการใช้ช่องปากด้วย

ทำฟันขาวก่อนแล้วจัดฟันได้มั้ย
สามารถทำการฟอกฟันขาวก่อนได้ เพราะหลังจัดฟันจริงๆแล้วจะฟอกฟันไม่ได้ทันทีเพราะหน้าฟันจะถูกขูดออกและต้องรอให้ฟันคืนสภาพก่อน

จัดฟันอยู่ฟอกฟันได้มั้ย
ถ้าหากจัดฟันอยู่ ไม่สามารถฟอกฟันได้ เพราะจะทำให้หน้าฟันสีไม่เท่ากัน เนื่องจากจะติดที่ตัววัสดุเครื่องมือจัดฟัน (แบร็คเก็ต) แนะนำให้ฟอก หลังจากหลังจากถอดเหล็กดัดฟันแล้วประมาณ 3 – 6 เดือน

เคสฟอกสีฟัน