รีเทนเนอร์(Retainer)

ประเภทของรีเทนเนอร์(Retainer)

 

วิธีการดูแลรักษาและข้อควรระวังของรีเทนเนอร์(Retainer)

คำถามเกี่ยวกับรีเทนเนอร์(Retainer)

บทสรุปเรื่องรีเทนเนอร์(Retainner)

 

รีเทนเนอร์(Retainer)

หลายคน คงเข้าใจผิดว่า รีเทนเนอร์(Retainer) คือเครื่องมือในการจัดฟัน แต่จริงแล้ว รีเทนเนอร์ คือ เครื่องมือสำคัญที่คนจัดฟันต้องใช้ เพราะฟันที่เรียงสวยหลังจัดฟันจะไม่ได้อยู่คงที่ถาวร และมีโอกาสที่ฟันจะเคลื่อนตัวหากไม่มีการยึดตำแหน่งให้เนื้อฟันและกระดูกของฟันหยุดอยู่กับที่ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะทำให้ฟันของคุณเรียงสวยเป็นระเบียบต่อไปได้หลังจัดฟันเสร็จคือ รีเทนเนอร์ การเลือกรีเทนเนอร์แบบไหนให้เหมาะกับตัวคุณ แต่ละแบบมีคุณสมบัติอย่างไร มาทำความเข้าใจที่ถูกต้อง และตอบคำถามที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เกี่ยวกับรีเทนเนอร์

 

ประเภทของรีเทนเนอร์(Retainer)

รีเทนเนอร์(Retainer) แบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่

 

รีเทนเนอร์(Retainer) แบบลวด เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้ (Removable Hawley Wire Retainers) มีตัวฐานทำจากพลาสติกหรืออะคริลิกที่มีรูปร่างพอดีกับเพดานปากเเละตามเเนวฟันล่างด้านในของคนไข้ มีส่วนที่เป็นลวดโลหะบางๆ พาดผ่านด้านนอกของฟันคนไข้ เพื่อรักษาการเรียงตัวของฟัน

ข้อดี รีเทนเนอร์แบบลวด

-ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนานหากดูแลอย่างเหมาะสม
-ซ่อมแซมได้ เมื่อเสียหาย
-สามารถปรับแก้ไขได้ หากใส่เเล้วหลวม ไม่กระชับ หรือเเน่นเกินไป
-คุณหมอช่วยแก้ไขให้พอดีกับคนไข้ได้ โดยไม่ต้องทำใหม่
-ฟันบนและฟันล่างสัมผัสกับรีเทนเนอร์ประเภทนี้อย่างเป็นธรรมชาติ
-สามารถออกแบบลาย ให้มีโลโก้หรือสีต่างๆได้ ฯลฯ

ข้อเสีย รีเทนเนอร์แบบลวด

-มองเห็นได้ลวดโลหะได้ชัดเจนกว่ารีเทนเนอร์ประเภทอื่นๆ
-ฐานพลาสติกครอบคลุมพื้นที่เพดานปากโดยรอบ อาจให้ความรู้สึกรำคาญสำหรับคนไข้บางราย
-มีผลต่อการพูดของคุณมากกว่ารีเทนเนอร์แบบอื่น ๆ
-ส่วนที่เป็นลวด อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองบริเวณริมฝีปากหรือแก้มในช่วงเเรกๆ

 

รีเทนเนอร์(Retainer) แบบติดแน่น (Permanent Retainers, Bonded Retainers) ตัวรีเทนเนอร์ประกอบด้วยลวดแข็งดัดโค้งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างของฟัน ลวดจะถูกยืดไว้บริเวณด้านในของฟันหน้าของคนไข้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนที่ คนไข้จะไม่สามารถถอดออกเองได้ ยกเว้นทันตแพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ถอดให้

ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบติดแน่น ได้แก่

-ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการใส่ การถอด หรือระยะเวลาในการสวม
-คนอื่นจะมองไม่เห็น เนื่องจากติดไว้ที่ด้านหลังฟัน
-ส่งผลต่อการพูดและการออกเสียงน้อยมาก
-ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมหรือทำหาย
-โอกาสพังเสียหายน้อยมาก

ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบติดแน่น ได้แก่

-เมื่อใส่แล้วอาจทำความสะอาดฟันได้ยากกว่าเดิม โดยเฉพาะการขัดฟันด้วยไหมขัดฟัน

-รีเทนเนอร์แบบนี้ไม่สามารถถอดออกได้ จึงอาจเกิดการสะสมคราบแบคทีเรียและหินปูน ที่ทำให้เกิดโรคเหงือกได้

-อุปกรณ์ติดแน่นกับฟัน ทำให้หลายคนใส่แล้วไม่ชอบ

-ลวดโลหะอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองลิ้นได้

รีเทนเนอร์(Retainer) แบบใส เป็นรีเทนเนอร์(Retainer) ประเภทที่ทำมาจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน ขึ้นรูปโดยการทำให้ร้อนและดูดลงไปที่แม่พิมพ์ของฟันคนไข้พอดีกับตำแหน่งฟันใหม่  ซึงจะทำให้คนไข้ได้รูปฟันที่สวยงามมากขึ้น

รีเทนเนอร์(Retainer) แบบใส  (Removable Clear Plastic Retainers)

เป็นรีเทนเนอร์(Retainer) ประเภทที่ทำมาจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน ขึ้นรูปโดยการทำให้ร้อนและดูดลงไปที่แม่พิมพ์ของฟันคนไข้พอดีกับตำแหน่งฟันใหม่  ซึงจะทำให้คนไข้ได้รูปฟันที่สวยงามมากขึ้น

ข้อดีของรีเทนเนอร์(Retainer) แบบใส

-มีสีใสแทบจะไม่สังเกตเห็นว่าใสรีเทนเนอร์(Retainer) ให้ความเป็นธรรมชาติ

-ใส่สบายกว่ารีเทนเนอร์(Retainer)เเบบลวด
-ส่งผลกระทบต่อการพูดน้อยกว่า ของคุณมากกว่ารีเทนเนอร์(Retainer)เเบบลวด

ข้อเสียของรีเทนเนอร์(Retainer) แบบใส

-ไม่สามารถปรับแก้ไขได้ ถ้าคนไข้ละเลยการใส่รีเทนเนอร์(Retainer)ทุกวันจนฟันเคลื่อนจนไม่สามารถใส่ได้ ต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่
-ไม่สามารถซ่อมแซมได้ กรณีที่เสียหาย เช่น มีรอยร้าว แตก
-สามารถบิดงอได้หากสัมผัสกับความร้อน เเละมีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าเเบบลวด
-มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีเมื่อเวลาผ่านไป

ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์(Retainer)

รีเทนเนอร์(Retainer)ช่วยคงตำแหน่งฟันของคุณคงที่ เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดฟันและตำแหน่งการกัดของคุณไม่เปลี่ยนแปลง ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีแรกหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน โดยระยะเวลาที่มากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ในช่วงปีที่สองเป็นต้นไป คนไข้จะสวมรีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้

ปัญหาจากการใส่รีเทนเนอร์(Retainer)

รีเทนเนอร์ ทั้งที่เป็นเหล็กหรือพลาสติกใส มีส่วนที่เศษอาหารสามารถไปติดค้างได้ ยิ่งสะสมมากเข้าเกิดเป็นคราบจุลินทรีย์ได้ ทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้ง่าย หากไม่รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสังเกตเห็นได้จาก ปัญหากลิ่นปาก จากเชื้อเเบคทีเรีย รีเทนเนอร์เริ่มมีการเปลี่ยนสี เป็นต้น

 

วิธีการดูแลรักษารีเทนเนอร์(Retainer)

1.  ทำความสะอาดรีเทนเนอร์(Retainer)ทันที หลักจากถอดออกจากปากในขณะที่ยังเปียกอยู่ วิธีนี้จะช่วยให้ทำความสะอาดเศษอาหารต่างๆ ที่ติดอยู่ออกง่ายขึ้น
2. แปรงรีเทนเนอร์(Retainer)ของคุณด้วยน้ำอุ่นหลังอาหารแต่ละมื้อ
3. ทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำอุ่นกับสบู่ หรือนำ้ยาล้างจานอ่อน ๆ โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มหรือแปรงฟันปลอมค่อยๆขัดคราบจุลินทรีย์และเศษอื่น ๆ ไม่เเนะนำให้ใช้ยาสีฟัน เพราะ สารขัดเคลือบฟันในยาสีฟัน อาจทำให้ผิวของตัวยึดรีเทนเนอร์(Retainer)เป็นรอยได้
4. ในจุดที่ทำความสะอาดได้ยาก เช่น ตามร่องรีเทนเนอร์(Retainer) ให้ใช้ก้านสำลีเช็ดเบาๆ
5. ถ้ารีเทนเนอร์(Retainer)มีคราบฝังลึก ปรึกษาทันตแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการแช่รีเทนเนอร์ในฟันปลอมหรือน้ำยาทำความสะอาดรีเทนเนอร์ก่อน
6. ควรเก็บรีเทนเนอร์(Retainer)ใส่กล่องรีเทนเนอร์ให้เรียบร้อย การห่อด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู่ระหว่างรับประทานอาหาร อาจทำให้คนไข้ลืมเผลอทิ้ง หรือทับจนหักงอได้

ข้อควรระวังในการใช้รีเทนเนอร์(Retainer)

-นอกจากการทำความสะอาดเเล้วยืดอายุการใช้งานรีเทนเนอร์(Retainer) ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้รีเทนเนอร์เสียหายได้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย ข้อควรระวังได้แก่

เก็บรีเทนเนอร์ให้ห่างจากความร้อน เพราะความร้อนทำให้ตัวพลาสติกหรืออครีลิกบิดเบี้ยวได้ ไม่ทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยน้ำร้อน ไม่เผลอใส่ในเครื่องใช้ เช่น เครื่องล้างจาน, ไมโครเวฟ, เครื่องซักผ้า หรือเครื่องอบผ้า

-สารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดมีผลเสียต่อรีเทนเนอร์ เช่น การแช่รีเทนเนอร์ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม แอลกอฮอล์สามารถทำอันตรายต่อพลาสติกได้

-ถ้าคุณไม่แน่ใจให้ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อการดูเเลรีเทนเนอร์อย่างถูกต้อง

-ในระหว่างที่ใส่รีเทนเนอร์ ไม่ควรใช้ลิ้นดันรีเทนเนอร์เล่น เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์หลวมและหลุดออกมาได้

-การถอดรีเทนเนอร์ ควรใช้นิ้วเกี่ยวลวดที่อยู่บริเวณ หรือจะใช้นิ้วเกี่ยวส่วนที่เป็นขอบของฐานอะคริลิก ไม่ควรใช้นิ้วดึงบริเวณที่พาดอยู่บนฟันหน้าเพราะอาจทำให้ลวดหักได้

-ถอดรีเทนเนอร์และเก็บไว้ในกล่องเก็บรีเทนเนอร์ทันที ไม่เเนะนำให้ห่อกระดาษทิชชู่หรือใส่ในกระเป๋า เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการลืม หรือหักงอ จนเสียหายได้

 

คำถามเกี่ยวกับรีเทนเนอร์(Retainer)

รีเทนเนอร์(Retainer)คืออะไร

คืออุปกรณ์ที่ช่วยคงสภาพฟัน สำหรับคนไข้ใส่หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน คนไข้สามารถเลือกได้หลายรูปแบบที่เหมาะกับตัวเอง ทั้งรีเทนเนอร์ใส รีเทนเนอร์แบบลวด หรือรีเทนเนอร์แบบติดเเน่น

 

ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์(Retainer)หลังจัดฟัน

การที่คนจัดฟันเสร็จแล้วจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์(Retainer) เพราะว่าด้วยอายุที่มากขึ้น ฟันมีโอกาสเคลื่อนตัวกลับไปเป็นแบบเดิมก่อนจัดฟันนั่นเอง รีเทนเนอร์จึงเป็นตัวช่วยรักษาแนวฟันที่เรียงสวยงาม มีการสบฟันที่ดีให้คงที่ตลอดไป

 

ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์(Retainer)จะมีผลอย่างไร

ถ้าคนไข้ไม่ใส่รีเทนเนอร์(Retainer)จะส่งผลทำให้ฟันเริ่มเคลื่อนตัว เกิดเป็นฟันห่าง ฟันล้ม คนไข้อาจจะต้องจัดฟันรอบสอง เสียเวลาเเละเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกด้วย

 

ต้องใส่รีเทนเนอร์(Retainer)นานเเค่ไหน

ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์(Retainer)ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 4-6 เดือนหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน ขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล

 

ใส่รีเทนเนอร์(Retainer)เพื่อคงสภาพฟันเพียง 2 ปี แล้วสามารถถอดได้ถาวรจริงหรือ

คนไข้หลังจัดฟันเสร็จต้องใส่รีเทนเนอร์(Retainer)ไปตลอดชีวิตถ้าไม่อยากให้ฟันเคลื่อน โดยช่วง 1-2 ปีแรก คุณหมอจะแนะนำให้คนไข้พยายามใส่ไว้ตลอด ยกเว้นช่วงที่รับประทานอาหารและแปรงฟัน หลังจากปีที่ 2 เป็นต้นไป สามารถลดความถี่ในการใส่ได้ แค่เฉพาะเวลานอน 3-5 คืนต่อสัปดาห์ได้ แต่คุณหมออยากเเนะนำให้คนไข้ใส่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าอยากคงฟันสวยแบบนี้ไว้ตลอด

 

ทำยังไงถ้ารีเทนเนอร์(Retainer)หาย

กรณีที่รีเทนเนอร์(Retainer)หาย คนไข้ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทันที เพื่อทำรีเทนเนอร์ใหม่สำหรับใส่ได้ทันท่วงที การปล่อยฟันโดยไม่ใส่รีเทนเนอร์นานๆ ฟันเคลื่อนตัวและเกิดฟันล้มตามมา ต้องเสียเวลามาจัดฟันกันใหม่อีก

 

รีเทนเนอร์ที่ชอบ แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

การใส่รีเทนเนอร์ไม่สม่ำเสมอจะทำให้ฟันเลื่อนกลับมาและเวลาใส่รีเทนเนอร์จะแน่นขึ้นกว่าเดิม หากฟันเลื่อนไปมากๆจะทำให้ใส่รีเทนเนอร์ไม่ลงเราอาจต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่หรือต้องจัดฟันใหม่เลย

เมื่อจัดฟันเรียบร้อยแล้วหรือจำเป็นต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่ ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากเพื่อส่งผลิตเป็นชิ้นงานรีเทนเนอร์ อาจจะพิมพ์ปากก่อนถอดเครื่องมือจัดฟัน(ยังมีเครื่องมือจัดฟันติดอยู่)หรือถอดเครื่องมือจัดฟันออกก่อน แล้วจึงพิมพ์ปากครับ

การผลิตชิ้นงานรีเทนเนอร์โดยช่างแลปทันตกรรมจะใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน (ขึ้นอยู่กับบริษัทแลปผู้ผลิตงาน)

เมื่อได้รีเทนเนอร์มาแล้วต้องนำมาผ่านการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อก่อน แล้วจึงนัดคนไข้ให้มาลองใส่ในปาก ขั้นตอนนี้ทันตแพทย์ต้องเป็นผู้ตรวจเช็คว่าใส่ไปแล้วพอดีไหม คับหรือหลวมเกินไปหรือไม่ มีบริเวณไหนของรีเทนเนอร์ที่กดทำเหงือกจนเจ็บหรือไม่ ถ้ามีก็จะทำการปรับหรือแก้ไขให้พอดีและแนะนำวิธีการใส่รีเทนเนอร์ต่อไปครับ

 

บทสรุปเรื่องรีเทนเนอร์(Retainner)

สรุปก็คือเมื่อจัดฟันเสร็จเเล้ว คนไข้ยังต้องดูเเลตัวเองหลังถอดเครื่องมือต่อ ทั้งการดูเเลความสะอาดเหงือก ฟันเเละรีเทนเนอร์(Retainer)อย่างสม่ำเสมอ มีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์ ทำตามคำแนะนำอย่างของทันตแพทย์เคร่งครัด ก็ทำให้ยิ้มสดใสคู่ฟันสวยอยู่กับคุณไปอีกนานเลยครับ

 

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาปัญหาฟรีได้ที่

Line : สาขาศรีราชา

Line : สาขาพัทยา

Instagram Modernsmile

WEBSITE Modernsmile