สีเหงือก บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ
หากคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับ สีเหงือก และความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพทั้งร่างกายและช่องปากของคุณ วันนี้แอดมินมีข้อมูลดีๆมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
สารบัญ
– สีของเหงือกบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ
– อาการของโรคเหงือกและโรคปริทันต์
– การดูแลเหงือกให้มีสุขภาพที่ดี
– วิธีเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง
– สรุป
🌟 สีเหงือกบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ
สีของเหงือกสามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและสุขภาพรวมของเราได้ดังนี้
1. สีชมพู เหงือกที่มีสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพที่ดีของช่องปาก แสดงถึงการไหลเวียนของเลือดที่ดีและการดูแลช่องปากที่เหมาะสม
2. สีแดง หรือบวม เหงือกที่แดง บวม หรือเลือดออกอาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคเหงือก เช่น ลักษณะอักเสบหรือการอักเสบเหงือก (Gingivitis) หรือการอักเสบหลังเหงือก (Periodontitis) ซึ่งมักเกิดจากการดูแลช่องปากไม่เพียงพอ การสะสมพลัคและการติดเชื้อแบคทีเรีย
3. สีเหลือง เหงือกที่เป็นสีเหลืองอาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคจอนด์ (Jaundice) ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงปัญหาในตับหรือทางท่อน้ำดีได้
4. เหงือกสีดำ เหงือกที่เป็นสีดำหรือสีเข้มอาจเกิดจากเมโลทิน เป็นสีหนึ่งที่พบได้ในร่างกาย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในสีของเหงือกเป็นสีดำอาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาที่ร้ายแรงกว่า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการให้ถูกต้อง
โดยจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสีของเหงือกเช่น พื้นผิวเรื้อรังของผิวหนัง ความแสดงอารมณ์ และสีผม ดังนั้นถ้าคุณมองเห็นเหงือกที่มีสีผิดปกติซึ่งไม่ดีขึ้นหรือมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือหมอฟันเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
🌟อาการของโรคเหงือกและโรคปริทันต์
โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะแรกและมักส่งผลกระทบต่อผิวเหงือก โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของเหงือกและฟัน คนไข้อาจมีเลือดออกที่เหงือกขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน มีอาการกดเจ็บที่เหงือก และเหงือกบวมแดง ทั้งนี้ เหงือกอักเสบสามารถรักษาได้โดยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดแบคทีเรียและคราบพลัคบนผิวฟัน ซึ่งจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นในเวลาต่อมา แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
โรคปริทันต์ หรือ “ปริทันต์ไซส์” (Pyorrhea) เกิดขึ้นเมื่อภาวะเหงือกอักเสบไม่ได้รับการรักษา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดร่องลึกระหว่างเหงือกและรากฟัน รวมทั้งอาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียที่บริเวณนั้น ๆ จนเนื้อเยื่อและกระดูกขากรรไกรที่ยึดเหงือกและฟันเอาไว้ด้วยกันได้รับความเสียหาย ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และมีเลือดออกจากเหงือกได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โรคปริทันต์อาจก่อให้เกิดโรคอักเสบหลังเหงือก (Periodontitis) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่รุนแรงของโรคและสามารถทำให้กรามและกรามฟันสูญเสียได้
🌟การดูแลเหงือกให้มีสุขภาพที่ดี
การดูแลเหงือกเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพช่องปากและรักษาความสุขภาพรวมของร่างกาย นี่คือขั้นตอนการดูแลเหงือกที่คุณสามารถปฏิบัติได้
1. แปรงฟันทุกวัน แปรงฟันสองครั้งต่อวัน
2. ใช้ไหมสำหรับทำความสะอาดระหว่างฟันเพื่อล้างเศษอาหารและคราบเชื้อแบคทีเรียในพื้นที่ที่ไม่สามารถแปรงได้ถึง
3. สเปรย์ช่วยล้างเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรียในช่องปากที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ควรใช้สเปรย์ที่มีส่วนประกอบที่เป็นมิตรกับเหงือก
4. การทำความสะอาดฟันเป็นประจำหลังรับประทานอาหารสามารถช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นได้
5. ระมัดระวังการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอซิด อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอซิดอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนเนื้อเยื่อเหงือก
6. เข้ารับการตรวจรักษาเหงือกกับทันตแพทย์หรือหมอฟันเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบสุขภาพเหงือกและรับการทำความสะอาดเหงือกอย่างถูกต้อง
7. หยุดสูบบุหรี่และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อสุขภาพช่องปาก
🌟วิธีเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง
หลายๆคนจะทราบก็ต่อเมื่อมีอาการหนักจนไปพบทันตแพทย์แล้วนั่นเอง แต่วิธีการดูเบื้องต้นนั้นไม่ยากอย่างที่คิดสามารถตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตนเองได้ การเช็คปัญหาสุขภาพของเหงือกด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อระบุความสภาพของเหงือกและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อเช็คปัญหาสุขภาพของเหงือกด้วยตัวเอง
1. ดูสีของเหงือก สีเหงือกที่ดีมักเป็นสีชมพูอ่อนถึงชมพูอมเหลือง หากเห็นสีเหงือกเปลี่ยนเป็นแดงหรือมีเนื้อเยื่อเหงือกที่บวม อาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคเหงือก
2. เช็คการเลือดออก ใช้ไหมหรือนิ้วกดเบาๆ บนเหงือก หากมีเลือดออกจากเหงือกโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก
3. เช็คการบวมหรือบริเวณอักเสบ ลองสัมผัสบริเวณเหงือกด้านหน้าและด้านหลังของฟัน เช็คว่ามีการบวมหรือรู้สึกอักเสบหรือไม่
4. ตรวจสอบการยึดติดกับฟัน ค่อยๆ โยกเลื่อนฟันด้วยนิ้ว เพื่อดูว่าเหงือกยึดติดกับฟันอย่างเหมาะสมหรือไม่
5. มีอาการปวดหรืออักเสบ หากมีอาการปวดร้าวหรือรู้สึกอักเสบในบริเวณเหงือก เช่น เวลาแปรงฟัน อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก
6. สังเกตการบริโภคอาหาร หากคุณรับประทานอาหารแล้วมีความรู้สึกว่าเหงือกบวมหรืออักเสบเพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก
โรคเหงือกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย และทุกคน ส่วนใหญ่จะพบในวัยผู้ใหญ่ หากเริ่มมีอาการควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว
🌟สรุป
สีเหงือกสามารถเป็นสัญลักษญ์ที่สื่อถึงสุขภาพของเราได้ การเปลี่ยนแปลงของสีเหงือก อาจแสดงถึงสถานะสุขภาพทั้งร่างกายของเราได้ หากคุณพบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติในสี เนื้อเยื่อ หรือความสัมพันธ์ของเหงือก ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เหมาะสม การเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกเป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อการรักษาที่เท่าทันและเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง การดูแลเหงือกและฟันให้ถูกวิธี ก็สามารถทำให้อายุเหงือกและฟันอยู่กับเราไปได้อีกนาน และยังป้องกันการมีกลิ่นปาก หินปูน เกิดเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวมที่เป็นจุดเริ่มต้นของโรคปริทันต์ที่นำไปสู่การสูญเสียฟันแท้อีกด้วย
ใครที่มองหาคลินิกทันตกรรมที่มีความปลอดภัย แนะนำคลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์ ศรีราชาและพัทยา มีบริการทันตกรรมครบทุกวงจรและทันตแพทย์เชี่ยวชาญ
ปรึกษาฟรีไม่ค่าใช้จ่ายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่
คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาศรีราชา: 085-2471333
คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาพัทยา: 085-2471222
Line ID : @modernsmile
Instagram : Modernsmile
Website: Modernsmiledental Clinic
Facebook: Modern Smile ทำฟัน จัดฟัน ศรีราชา พัทยา