Tag Archives: สีเหงือก

สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน

สุขภาพฟัน ที่ดีสร้างได้จากการกิน

สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน           สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน ซึ่งการดูแลสุขภาพฟันนั้น ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่ที่การแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันเท่านั้น แต่การเลือกอาหารที่ถูกต้อง ก็มีบทบาทสำคัญในการรักษาฟันให้แข็งแรงและป้องกันปัญหาฟันผุ หรือโรคเหงือกต่างๆ ได้ มาดูกันว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพฟันของคุณได้ วันนี้แอดมินมาแชร์ความรู้ดีๆเกี่ยวกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพฟันมาฝากกันค่ะ ว่าการกินส่งผลดีหรือผลเสียอย่างไรบ้าง ที่ส่งผลต่อสุขภาพฟันของเรา และมีอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรบ้าง ที่ส่งผลต่อสุขภาพฟันของเรา รวมไปถึงวิธีการแก้ไขปัญหาหากเกิดฟันเหลือง ตามมาดูกันเล๊ยยยย อาหารที่ดี ต่อสุขภาพฟัน       สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน ซึ่งเครื่องดื่มหรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพฟันนั้น มีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีเส้นใยสูง วิตามินซี และวิตามินบี2 ซึ่งช่วยทำความสะอาดฟัน ป้องกันโรคเหงือก และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟัน ดังนี้ ผักและผลไม้สด เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลี แครอท ฝรั่ง แตงกวา ฝรั่ง ส้ม สับปะรด ชมพู่ มันแกว เป็นต้น มีเส้นใยสูง และวิตามินซีสูง ช่วยทำความสะอาดฟันและป้องกันโรคเหงือก ชีสและนม มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟันและเคลือบฟัน เนื้อปลา มีฟลูออไรด์ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยป้องกันฟันผุ ถั่วและธัญพืช เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ รำ มีวิตามินบี 2 สูง ช่วยป้องกันมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ น้ำเปล่า ช่วยล้างเศษอาหารและแบคทีเรียออกจากฟัน และช่วยเจือจางกรดในช่องปาก อาหาร ที่ทำร้ายสุขภาพฟัน อาหารที่ทำร้ายสุขภาพฟัน และครื่องดื่มที่มีผลต่อสุขภาพฟัน มีหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลและกรดสูง จะส่งผลเสียต่อผิวเคลือบฟันและอาจทำให้ฟันผุได้ ดังนี้ ลูกอมหรือลูกกวาด มีน้ำตาลจำนวนมากและอาจมีสารพิษจากสีที่ไม่ควรนำมาประกอบอาหาร เช่น สีย้อมผ้า, สีย้อมกระดาษ และสีย้อมเส้นใย ซึ่งอาจปนเปื้อนจากโลหะหนักอย่างตะกั่ว, สารหนู หรือโครเมียม โซดาหรือน้ำอัดลม มีกรดคาร์บอนิกและน้ำตาลสูง ทำให้ผิวเคลือบฟันบางลงและอาจทำให้ฟันผุได้ นอกจากนี้ยังมีปริมาณฟอสฟอรัสมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อโรคกระดูกพรุน น้ำหวานและเครื่องดื่มชูกำลัง มีน้ำตาลจำนวนมากและคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและเป็นโรคเบาหวานตามมา นอกจากนี้ยังมีสารให้ความหวานและสารกระตุ้นที่อาจส่งผลต่อภาวะโรคอ้วน, โรคหัวใจและหลอดเลือด ชาและกาแฟ มีสารแทนนิน (Tannin) ทำให้เกิดคราบเหลืองบริเวณผิวฟัน และมีน้ำตาลสูงและมีกรดสูงที่ทำลายผิวเคลือบฟัน น้ำแข็ง แม้จะผลิตมาจากน้ำสะอาด แต่การกัดเคี้ยวน้ำแข็งเป็นประจำอาจส่งผลให้ผิวเคลือบฟันสึกกร่อนจากการใช้งานหนัก ผลไม้กระป๋อง มีน้ำเชื่อมที่ทำมาจากน้ำตาล ซึ่งอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น เกิดโรคกระดูกพรุน, เลือดมีภาวะเป็นกรด, สมองทำงานช้าลง และที่สำคัญยังเร่งการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว อาหาร บำรุงเหงือก อาหารที่บำรุงเหงือกจะส่งผลต่อ สีของเหงือก สามารถบ่งบอกสุขภาพของคุณได้ หมั่นสำรวจตัวเองเป็นประจำ 1. ผักใบเขียวและผลไม้ เช่น ผักโขมและคะน้า มีวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างเหงือก ส้มและสตรอว์เบอร์รี ช่วยป้องกันเหงือกอักเสบ 2. โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนม มีแคลเซียมเสริมสร้างเหงือก 3. ถั่วและเมล็ดพืช เช่น อัลมอนด์, มีวิตามิน E และแร่ธาตุช่วยบำรุงเหงือก ทำไมอาหารที่มีน้ำตาลถึงทำร้ายฟัน องค์ประกอบของอาหารที่มีน้ำตาล เป็นส่วนประกอบที่สามารถทำร้ายฟันได้เนื่องจากกระบวนการดังต่อไปนี้ แบคทีเรียในช่องปากย่อยสลายน้ำตาล เมื่อรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล แบคทีเรียในช่องปากจะย่อยสลายน้ำตาลเหล่านี้และผลิตกรดแลคติก กรดนี้จะโจมตีผิวเคลือบฟันและทำให้เกิดการสึกกร่อน กรดทำลายผิวเคลือบฟัน กรดแลคติกที่ผลิตโดยแบคทีเรียจะละลายแร่ธาตุในผิวเคลือบฟัน เช่น แคลเซียมและฟอสเฟต เมื่อเวลาผ่านไป การสึกกร่อนนี้จะทำให้เกิดฟันผุ น้ำตาลเกาะติดฟัน อาหารที่มีน้ำตาล เช่น ลูกอมและเครื่องดื่มอัดลม มักจะเกาะติดฟันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียมีเวลาย่อยสลายน้ำตาลและผลิตกรดมากขึ้น น้ำตาลส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย น้ำตาลเป็นแหล่งอาหารสำหรับแบคทีเรียในช่องปาก การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลเป็นประจำจะช่วยให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การผลิตกรดที่มากขึ้นและความเสี่ยงต่อฟันผุที่สูงขึ้น อาหารที่ทำให้ฟันเหลือง อาหารที่ทำให้ฟันเหลืองมีหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มหรือเป็นกรด สามารถทำให้คราบสีและคราบจุลินทรีย์เกาะติดบนผิวฟัน และทำให้ฟันเหลืองได้ 1. กาแฟ มีสารประกอบที่สร้างสีน้ำตาลที่สามารถสร้างคราบบนผิวฟันของคุณได้ 2. ชา มีสารแทนนิน ทำให้เกิดคราบ ยิ่งสีชาเข้มขึ้นเท่าไร ฟันของคุณก็จะยิ่งเป็นคราบมากขึ้นเท่านั้น 3. ไวน์แดง การดื่มไวน์แดงเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดคราบฟัน 4. น้ำอัดลม อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบได้ เพราะเป็นกรดที่สามารถกัดกร่อนเคลือบฟันของคุณได้ 5. น้ำผลไม้สีเข้ม เช่น แครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และน้ำองุ่น มีแนวโน้มที่จะทิ้งคราบไว้บนฟันของคุณ 6. น้ำมะนาว ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาวและมะนาวมีสภาพเป็นกรดสูงและสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันได้ 7. ซอสมะเขือเทศ เนื่องจากมีเม็ดสีที่ทำให้เกิดสีแดงเข้ม 8. อาหารประเภทแกงที่มีสีเข้มข้น อย่างเช่นแกงกระหรี่ อาจทำให้เกิดคราบทิ้งร่องรอยการบอกเล่าไว้บนฟันของคุณได้ 9. ซีอิ๊ว เพราะมีสีเข้มของถั่วเหลืองอาจคงอยู่เป็นเวลานานหลังจากมื้ออาหารของคุณเสร็จสิ้นและทำให้เกิดคราบที่ฟันได้ 10. บีทรูท จริงอยู่ที่เป็นผักที่มีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย แต่ด้วยเม็ดสีที่ผสมอยู่เข้มข้นก็สามารถทำให้เกิดคราบที่ผิวฟันของคุณได้เช่นกัน เพื่อป้องกันปัญหาฟันเหลือง ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดเครื่องดื่มและอาหารที่มีผลต่อสีของฟัน และดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี เช่น แปรงฟันอย่างถูกวิธีและบ้วนปากหลังอาหาร ฟันเหลือง ทำไงดี หากเจอปัญหาฟันเหลือง สามารถแก้ไข้ได้หลายวิธีเลยค่ะ แอดมินจะมาแชร์ 1 ในวิธีที่จะทำให้ฟันที่เหลืองกลับมาขาวดังเดิม นั่นคือออ การฟอกสีฟัน!    การฟอกสีฟัน เป็นกระบวนการปรับเม็ดสีในชั้นเคลือบฟันให้ขาวขึ้นด้วยการใช้น้ำยาฟอกสีฟันและพลังงานแสง Cool light การฟอกสีฟันมีประโยชน์หลายด้าน 1 แก้ไขปัญหาฟันที่มีสีคล้ำ สีน้ำตาล สีเหลือง และมีคราบต่างๆบนฟัน ให้มีความขาวมากขึ้น 2 ปรับปรุงรอยยิ้มให้ดูสดใสขึ้น ทำให้รอยยิ้มดูสดใสและมั่นใจมากขึ้น 3 เพิ่มความมั่นใจและช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น โดยทำให้ฟันขาวสะอาดและสวยงาม 4 ช่วยขจัดคราบหินปูน ทำให้ฟันขาวสะอาดและสดใส 5 เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันเหลือง โดยเฉพาะจากสาเหตุภายนอกตัวฟัน เช่น จากสีของอาหาร เครื่องดื่ม บุหรี่ และคราบแบคทีเรีย สรุป โดยรวมแล้ว ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำร้ายสุขภาพฟัน จะช่วยให้ฟันแข็งแรงและป้องกันโรคฟันพุได้ ปัญหาฟันเหลืองถือเป็นปัญหาที่กวนใจหลายๆคน ทำให้เสียความมั่นใจ แต่เราสามารถช่วยคุณได้ด้วยการฟอกสีฟัน โปรโมชั่น 4,999 บาท  จากราคาปกติ 10,000 บาท สามารถเข้ามาปรึกษาก่อนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย อย่าลืมแปรงฟันหลังทานอาหาร และพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อการดูแลฟันที่ดียิ่งขึ้น  ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลกับ โมเดิร์น สไมล์ คลินิก สาขา ศรีราชา และพัทยา เพิ่มเติม ได้ที่….. บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

สีเหงือก บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ

สีเหงือก

สีเหงือก บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ หากคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับ สีเหงือก และความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพทั้งร่างกายและช่องปากของคุณ วันนี้แอดมินมีข้อมูลดีๆมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ สารบัญ – สีของเหงือกบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ – อาการของโรคเหงือกและโรคปริทันต์ – การดูแลเหงือกให้มีสุขภาพที่ดี – วิธีเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง – สรุป   🌟 สีเหงือกบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ    สีของเหงือกสามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและสุขภาพรวมของเราได้ดังนี้ 1. สีชมพู เหงือกที่มีสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพที่ดีของช่องปาก แสดงถึงการไหลเวียนของเลือดที่ดีและการดูแลช่องปากที่เหมาะสม 2. สีแดง หรือบวม เหงือกที่แดง บวม หรือเลือดออกอาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคเหงือก เช่น ลักษณะอักเสบหรือการอักเสบเหงือก (Gingivitis) หรือการอักเสบหลังเหงือก (Periodontitis) ซึ่งมักเกิดจากการดูแลช่องปากไม่เพียงพอ การสะสมพลัคและการติดเชื้อแบคทีเรีย 3. สีเหลือง เหงือกที่เป็นสีเหลืองอาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคจอนด์ (Jaundice) ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงปัญหาในตับหรือทางท่อน้ำดีได้ 4. เหงือกสีดำ เหงือกที่เป็นสีดำหรือสีเข้มอาจเกิดจากเมโลทิน เป็นสีหนึ่งที่พบได้ในร่างกาย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในสีของเหงือกเป็นสีดำอาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาที่ร้ายแรงกว่า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการให้ถูกต้อง   โดยจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสีของเหงือกเช่น พื้นผิวเรื้อรังของผิวหนัง ความแสดงอารมณ์ และสีผม ดังนั้นถ้าคุณมองเห็นเหงือกที่มีสีผิดปกติซึ่งไม่ดีขึ้นหรือมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือหมอฟันเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม     🌟อาการของโรคเหงือกและโรคปริทันต์ โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะแรกและมักส่งผลกระทบต่อผิวเหงือก โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของเหงือกและฟัน คนไข้อาจมีเลือดออกที่เหงือกขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน มีอาการกดเจ็บที่เหงือก และเหงือกบวมแดง ทั้งนี้ เหงือกอักเสบสามารถรักษาได้โดยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดแบคทีเรียและคราบพลัคบนผิวฟัน ซึ่งจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นในเวลาต่อมา แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง โรคปริทันต์ หรือ “ปริทันต์ไซส์” (Pyorrhea) เกิดขึ้นเมื่อภาวะเหงือกอักเสบไม่ได้รับการรักษา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดร่องลึกระหว่างเหงือกและรากฟัน รวมทั้งอาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียที่บริเวณนั้น ๆ จนเนื้อเยื่อและกระดูกขากรรไกรที่ยึดเหงือกและฟันเอาไว้ด้วยกันได้รับความเสียหาย ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และมีเลือดออกจากเหงือกได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โรคปริทันต์อาจก่อให้เกิดโรคอักเสบหลังเหงือก (Periodontitis) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่รุนแรงของโรคและสามารถทำให้กรามและกรามฟันสูญเสียได้     🌟การดูแลเหงือกให้มีสุขภาพที่ดี การดูแลเหงือกเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพช่องปากและรักษาความสุขภาพรวมของร่างกาย นี่คือขั้นตอนการดูแลเหงือกที่คุณสามารถปฏิบัติได้ 1. แปรงฟันทุกวัน แปรงฟันสองครั้งต่อวัน 2. ใช้ไหมสำหรับทำความสะอาดระหว่างฟันเพื่อล้างเศษอาหารและคราบเชื้อแบคทีเรียในพื้นที่ที่ไม่สามารถแปรงได้ถึง 3. สเปรย์ช่วยล้างเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรียในช่องปากที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ควรใช้สเปรย์ที่มีส่วนประกอบที่เป็นมิตรกับเหงือก 4. การทำความสะอาดฟันเป็นประจำหลังรับประทานอาหารสามารถช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นได้ 5. ระมัดระวังการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอซิด อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอซิดอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนเนื้อเยื่อเหงือก 6. เข้ารับการตรวจรักษาเหงือกกับทันตแพทย์หรือหมอฟันเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบสุขภาพเหงือกและรับการทำความสะอาดเหงือกอย่างถูกต้อง 7. หยุดสูบบุหรี่และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อสุขภาพช่องปาก   🌟วิธีเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง หลายๆคนจะทราบก็ต่อเมื่อมีอาการหนักจนไปพบทันตแพทย์แล้วนั่นเอง แต่วิธีการดูเบื้องต้นนั้นไม่ยากอย่างที่คิดสามารถตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตนเองได้ การเช็คปัญหาสุขภาพของเหงือกด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อระบุความสภาพของเหงือกและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อเช็คปัญหาสุขภาพของเหงือกด้วยตัวเอง 1. ดูสีของเหงือก สีเหงือกที่ดีมักเป็นสีชมพูอ่อนถึงชมพูอมเหลือง หากเห็นสีเหงือกเปลี่ยนเป็นแดงหรือมีเนื้อเยื่อเหงือกที่บวม อาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคเหงือก 2. เช็คการเลือดออก ใช้ไหมหรือนิ้วกดเบาๆ บนเหงือก หากมีเลือดออกจากเหงือกโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก 3. เช็คการบวมหรือบริเวณอักเสบ ลองสัมผัสบริเวณเหงือกด้านหน้าและด้านหลังของฟัน เช็คว่ามีการบวมหรือรู้สึกอักเสบหรือไม่ 4. ตรวจสอบการยึดติดกับฟัน ค่อยๆ โยกเลื่อนฟันด้วยนิ้ว เพื่อดูว่าเหงือกยึดติดกับฟันอย่างเหมาะสมหรือไม่ 5. มีอาการปวดหรืออักเสบ หากมีอาการปวดร้าวหรือรู้สึกอักเสบในบริเวณเหงือก เช่น เวลาแปรงฟัน อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก 6. สังเกตการบริโภคอาหาร หากคุณรับประทานอาหารแล้วมีความรู้สึกว่าเหงือกบวมหรืออักเสบเพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก โรคเหงือกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย และทุกคน ส่วนใหญ่จะพบในวัยผู้ใหญ่ หากเริ่มมีอาการควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว   🌟สรุป สีเหงือกสามารถเป็นสัญลักษญ์ที่สื่อถึงสุขภาพของเราได้ การเปลี่ยนแปลงของสีเหงือก อาจแสดงถึงสถานะสุขภาพทั้งร่างกายของเราได้ หากคุณพบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติในสี เนื้อเยื่อ หรือความสัมพันธ์ของเหงือก ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เหมาะสม การเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกเป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อการรักษาที่เท่าทันและเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง การดูแลเหงือกและฟันให้ถูกวิธี ก็สามารถทำให้อายุเหงือกและฟันอยู่กับเราไปได้อีกนาน และยังป้องกันการมีกลิ่นปาก หินปูน เกิดเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวมที่เป็นจุดเริ่มต้นของโรคปริทันต์ที่นำไปสู่การสูญเสียฟันแท้อีกด้วย    ใครที่มองหาคลินิกทันตกรรมที่มีความปลอดภัย แนะนำคลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์ ศรีราชาและพัทยา มีบริการทันตกรรมครบทุกวงจรและทันตแพทย์เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรีไม่ค่าใช้จ่ายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่ คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาศรีราชา: 085-2471333 คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาพัทยา: 085-2471222 Line ID : @modernsmile Instagram : Modernsmile Website: Modernsmiledental Clinic Facebook: Modern Smile ทำฟัน จัดฟัน ศรีราชา พัทยา