จัดฟันแฟชั่น อันตราย กว่าที่คิด
ถ้าเอ่ยถึงเรื่องจัดฟันแฟชั่น ก็เป็นที่เข้าใจได้ในหมู่วัยรุ่นว่า บางคน มีความต้องการที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันเฉยๆไม่ได้ต้องการจัดฟันจริงจัง แต่เพื่อเป็นแฟชั่นหรืออยากมีเครื่องมือจัดฟันเหมือนเพื่อน
จัดฟันแฟชั่นมีกี่แบบ
ตอนนี้กำลังดูเรื่องถึงชนิดของการจัดฟันแฟชั่นในปัจจุบันเท่าที่เห็นจะมีอยู่ 2 แบบ
- แบบแรกก็คืออย่างที่ทั่วๆไปก็คือการใช้แบล็คเก็ต (Brackets) ติดใบที่ลงบนตัวฟันโดยตรงเหมือนกับทันตแพทย์จัดฟันทำโดยทั่วๆไป
- แบบที่สองก็คือทำลักษณะเหมือนเป็นแบบถอดออกได้คือโดยการใช้โครงสร้างเหมือนกับรีเทนเนอร์ (Retainer) และเอาแบล็คเก็ตติดไว้ที่บริเวณลวด (Labial Bow) ของรีเทนเนอร์ทางด้านหน้า แบบนี้ก็จะดูปลอดภัยกว่าแบบที่ 1 เพราะสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ และสามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ต้องอย่าใส่นานติดต่อกันนานเกินไป ควรถอดออกทุกครั้งก่อนทานอาหาร และก่อนนอน
มีประโยชน์อะไรบ้าง แล้วก็มีข้อเสียอะไรบ้าง
คราวนี้ก็มาดูว่าการจัดฟันแฟชั่นมันมีประโยชน์อะไรบ้าง แล้วก็มีข้อเสียอะไรบ้าง
ประโยชน์การจัดฟันแฟชั่น
- เพื่อให้เข้ากับกลุ่มเพื่อนได้ในหมู่วัยรุ่น วัตถุประสงค์หลักๆก็คือเพื่อต้องการให้มีเครื่องมืออยู่ในช่องปาก ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าทันสมัย แล้วก็เข้ากับหมู่เพื่อนๆได้ ในกรณีนี้โดยส่วนใหญ่ก็จะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นตั้งแต่อายุซักประมาณ 15 ปี จนถึง 25 ปี โดยส่วนใหญ่ก็คือจะใส่ด้วยเหตุผลว่าต้องการเข้าในหมู่เพื่อนได้ ทั้งๆที่ ตัวเองก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับระบบสบฟันอะไรเลย
- เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน อีกกรณีหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องระบบสบฟันจริงๆ แต่ว่าก็ยังต้องการที่จะจัดฟันแฟชั่น ในกรณีนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะในการที่จะจัดฟันจริงๆกับทันตแพทย์จัดฟันจะมีราคาค่อนข้างสูง
- เพื่อให้ตัวเองดูเด็กลง ส่วนอีกกรณีหนึ่ง เราจะพบในกลุ่มที่ค่อนข้างมีอายุเลยกลุ่มวัยรุ่นแล้ว ก็ตั้งแต่ประมาณ 25 ปี ถึง 40 ปี แต่ว่ากลุ่มนี้จะพบน้อย คือ กลุ่มที่ต้องการติดเครื่องมือจัดฟันเพื่อให้ตัวเองดูเด็กลง เนื่องจากอายุเลย 25 ปีไปแล้ว จะรู้สึกว่าตัวเองมีอายุมากขึ้นแล้วกำลังจะเลยช่วงวัยรุ่นแล้ว ก็เลยอยากจะติดเครื่องมือเพื่อให้ดูเป็นวัยรุ่นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ข้อเสียของการจัดฟันแฟชั่น
การ จัดฟันแฟชั่น อันตราย อย่างมากหลักๆอย่างเห็นได้ชัดก็คือ
- เสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ เราเสียเงินฟรีๆในการที่จะเอาเครื่องมือติดบนฟัน
- ทำความสะอากยาก การที่มีเครื่องมือจัดฟันติดบนฟันและถอดออกไม่ได้ ทำให้เราดูแลรักษาลำบาก แล้วคนที่ติดเครื่องมือแฟชั่นนั้นก็ไม่มีการทราบระยะการติดเครื่องมืออย่างแน่ชัดโดยส่วนใหญ่ก็คือติดเครื่องมือไปเรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อดังนั้นในการดูแลรักษาความสะอาดก็จะยิ่งทำให้ทำความสะอาดยากขึ้นจะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องฟันผุ เหงือกอักเสบ และสำหรับบางคนก็คือพูดจนหมดสิ้นเหลือแต่เครื่องมือจัดฟันห้อยอยู่ในปากก็เคยเห็นมาแล้ว
- ติดเครื่องมือกับผู้ที่ไม่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับจัดฟัน (หมอเถื่อน) ข้อเสียข้อที่สองก็คือโดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่ต้องการจัดฟันแฟชั่นก็จะไม่ไปหาหมอหรือทันตแพทย์จัดฟันจริงๆ ก็จะไปขวนขวายหา หมอเถื่อน ขั้นตอนการทำที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะทำที่ร้านหรือทำเองก็ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ถาดพิมพ์ฟันไม่มีการฆ่าเชื้อก่อน อาจได้รับเชื้อจากคนที่มาจัดฟันก่อนหน้า รวมถึงการรักษาความสะอาดด้วยการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่เคยทำอาชีพเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์แล้วก็ช่วยหมอจัดฟันทำงาน จนตัวเองเห็นขั้นตอน (Process) การทำงานทั้งหมดก็เลยคิดว่าตัวเองจะสามารถจัดฟันได้ แต่จริงๆถ้าพูดถึงก็คือสามารถติดเครื่องมือได้มากกว่า โดยที่จะไม่รู้ข้อดีข้อเสียหรือว่าข้อควรระวังอะไร คือจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากว่ารู้แต่ว่าติดเครื่องมือบนฟันอย่างไร
- วัสดุ และอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้มาตรฐาน วัสดุที่ใช้การจัดฟันและเอามาใส่ในช่องปาก โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่จัดฟันแฟชั่นก็จะซื้อจากตามอินเทอร์เน็ต ที่ไม่เข้าใจว่าจะต้องเลือกวัสดุชนิดไหนถึงจะมีความปลอดภัยกับ ผู้ที่ถูกติดเครื่องมือในช่องปากดังนั้น ก็จะเลือกสินค้าที่มีราคาถูกโดยไม่ทราบว่าวัสดุที่ใช้นั้นเหมาะสมกับที่จะอยู่ในช่องปากนานๆได้หรือไม่ ดังนั้น เพราะวัสดุที่ใช้ในช่องปากนานๆ เช่นลวด (Wire) หรือตัวแบล็คเก็ต (Bracket) ก็จะมีสนิมหรือปล่อยสารโลหะหนักบางชนิดออกมา มีสารปนเปื้อนหลายชนิด เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม สารหนู ฯ หากเข้าไปสะสมในร่างกายปริมาณมากมีผลต่อไตทำให้ไตวาย ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ที่ทำให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ใส่เครื่องมือจัดฟันแฟชั่นเป็นระยะเวลานานๆ เพียงแต่ว่ามันจะไม่แสดงอาการในช่วงเวลานั้นเราก็เลย ไม่รู้สึกตัว แต่จริงๆแล้วมีสารโลหะหนักซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกานเป็นพิษสะสมอยู่ในร่างกายโดยตลอด
- ลวดที่ใส่เข้าไปในช่องปาก ลวดที่ใช้ใส่ในช่องปาก ก็จะไม่มีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพช่องปาก ทำให้เกิดมีผลเสียอย่างเช่นที่เราเคยเห็น ตามข่าว มีลักษณะเป็นแผงเส้นตรงเหมือนกำแพง หรือล้มเข้าหากันเป็นตัววีโดยฟันมีการเคลื่อนตัวเกือบที่จะหลุดออกมาจากสันเหงือก
- ขาดความรู้การปรับแต่งลวด ทำให้เกิดแรงกดที่ตัวฟัน ทำให้ฟันเคลื่อนจากเดิม จนอาจมีอาการปวดฟัน ฟันตาย รากฟันละลาย จนถึงขั้นต้องถอนฟันทิ้ง
- เกิดแผลติดเชื้อหรือแผลเรื้อรังได้ หากลวดที่ไม่สะอาดทิ่มกระพุ้งแก้มหรืออวัยวะอื่นๆ ในช่องปาก ทำให้เกิดแผลติดเชื้อหรือแผลเรื้อรังได้
- ยางจัดฟันไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการฆ่าเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น ลายดอกไม้ ลายมิกกี้เม้าส์ มีเชื่อโรคสะสมหรือสารเคมี และยางที่มีลวดลายแบบนี้ยิ่งเพิ่มโอกาสทำให้ฟันผุด้วย
ทำไมการจัดฟันแฟชั่น ฟันถึงผุเยอะกว่าการจัดฟันจริง
- การจัดฟันแฟชั่น จะไม่มีทันตแพทย์คอยตรวจสุขภาพช่องปากทุกเดือนอยู่แล้ว
- ผู้ที่ติดเครื่องมือจัดฟันแฟชั่นก็ไม่ได้มีความต้องการปรับเครื่องมืออยู่แล้ว
- ติดเครื่องมือจัดฟันกับผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ จึงไม่มีการตรวจสุขภาพช่องปากเมื่อไปเปลี่ยนสียาง
- ผู้ที่ติดเครื่องมือจัดฟันแฟชั่น ต้องการใส่เครื่องมือนานๆ บางคนอาจจะนานถึง 10 ปี จนฟันผุหมดปาก
สรุป
จากที่กล่าวมาทั้งหมด ถึงจะมีข้อดีอยู่บ้างส่วน แต่ก็ต้องได้รับผลเสียเกิดขึ้นมากมายและรุนแรง ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วจะได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้นใครที่กำลังคิดที่จะจัดฟันแฟชั่น ขอให้คิดใหม่อีกรอบนึง ให้เราไปแต่งตัวเพิ่มเติมในส่วนอื่นดีกว่า เช่น ใส่ตุ้มหู กำไลหรือจะใส่ชุดแฟชั่นอย่างอื่น ซึ่งมันไม่มีอันตรายน่าจะไปทางออกที่เหมาะสมกว่าที่เราจะมาจัดฟันแฟชั่น ใครที่กำลังคิดจะทำก็อยากจะให้ลองทบทวนดีๆ ว่ามันจะมีผลเสียตามมามากมายอย่างที่เราได้เคยเห็นในข่าว เกี่ยวกับผู้ที่เคยจัดฟันแฟชั่นแล้วมีผลเสียตามมามากมาย
การจัดฟันแฟชั่นเป็นอัตรายไม่ควรทำอย่างยิ่ง
สามารถแก้จัดฟันได้ทุกที่ ที่มีทันตแพทยืจัดฟันประจำอยู่ โดยศึกษาและหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ
มี 2 แบบ คือ แบบติดแน่น และแบบถอดออกได้ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าแบบติดแน่น
จัดฟันแฟชั่นในคลินิกก็จะปลอดภัยกว่า ทำตามตลาดนัด ซึ่งสกปรกและสามารถติดเชื้อจากการจัดฟันได้
ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน
ทพ.วิสิทธิ์ ชัยจินดารัตน์ (หน่อง)
ประวัติการศึกษา
- ทันตแพทย์ศาสตร์ บัณฑิต ม.ขอนแก่น
- ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาทันตกรรมจัดฟัน มหาวิทยาลัย เทล อาวิฟ
- เทคนิกการใช้ Mini Implant ในการจัดฟัน Dentaplex Company
- การจัดฟัน แบบ Invisalign, Align Technology
- MPPM NIDA
- เจ้าของ Facebook Page : หมอวิสิทธิ์ สอนจัดฟัน ระบบ AVS in Orthodontics
ทพ.เกรียงไกร เกษมทรงธรรม (เอ)
ประวัติการศึกษา
- ประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาทันตกรรมประดิษฐ์ ม.จุฬาลงกรณ์
- วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาทันตกรรมจัดฟัน ม.จุฬาลงกรณ
- ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาทันตกรรมจัดฟัน ม.จุฬาลงกรณ์
ทพ.ณวัฒน์ แก้วมโน (ต๊ะ)
ประวัติการศึกษา
- ทันตแพทย์ศาสตร์ บัณฑิต ม.ขอนแก่น
- ปริญญามหาบัณฑิต (สาขาทันตกรรมทั่วไป) ม.มหิดล
- ประกาศนียบัตร ทันตกรรมจัดฟัน สถาบัน Modern Smile Institute
ทพ.กิตติพงษ์ เดชะ (กิต)
ประวัติการศึกษา
- ทันตแพทย์ศาสตร์ บัณฑิต ม.สงขลานครินทร์
- ปริญญามหาบัณฑิต (สาขาทันตกรรมจัดฟัน) ม.มหิดล
ทพญ.ธวัลรัตน์ เตชะเจริญโรจน์(น้ำ)
ประวัติการศึกษา
- ทันตแพทย์ศาสตร์ บัณฑิต ม.จุฬาลงกรณ์
- ทันตแพทย์จัดฟัน Siam Orthodontic Cente
ทพญ.สุจิตรา ไชยสังข์ (อ้อ)
ประวัติการศึกษา
- ทันตแพทย์ศาสตร์ บัณฑิต ม.สงขลา
- ปริญญามหาบัณฑิต (สาขาทันตกรรมจัดฟัน) ม.ขอนแก่น
ทพญ.ศิริรัตน์ วชิรมน (เอ)
ประวัติการศึกษา
- ทันตแพทย์ศาสตร์ บัณฑิต ม.จุฬาลงกรณ์
- Master of science in Orthodontics University of London
- One Year International Advanced Study Prohram in Orthodontics New York University