ฟันผุ แต่ทำไมอุดฟันไม่ได้
ฟันผุ แต่ทำไมอุดไม่ได้ ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่าฟันผุ มีกลไกการเกิดขึ้นอย่างไร กลไกของการเกิดฟันผุ ฟันผุเริ่มจากการก่อตัวของคราบแบคทีเรียหรือคราบจุลินทรีย์เกาะอยู่ที่ฟัน แบคทีเรียเหล่านี้จะทำปฎิกิริยากับอาหาร ขนม หรือ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกิดกระบวนการย่อยสลายกายเป็นกรด กรดจะค่อย ๆ กัดกร่อนผิวเคลือบฟัน (ชั้นนอกสุดของฟัน) ก่อให้เกิดการสูญเสียแร่ธาตุออกจากตัวฟันไปเรื่อย ๆ จนฟันเป็นรู หรือเรียกได้ว่าเกิดภาวะฟันผุ
สารบัญ
หากคุณมีอาการปวดฟันและสงสัยว่าน่าจะเกิดจาก ฟันผุ ไม่สามารถหายเองได้ ทำไมน่ะหรือ?
การรักษา ฟันผุ ด้วยการอุดฟัน
หากคุณมีอาการปวดฟันและสงสัยว่าน่าจะเกิดจาก ฟันผุ ไม่สามารถหายเองได้ ทำไมน่ะหรือ?
เหตุผลที่ว่าฟันผุไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยตัวเอง ก็เพราะเคลือบฟันที่ผุจนเป็นรูแล้ว ไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ คำอธิบายเพิ่มเติมจากสมาคมทันตแพทย์อเมริกัน ชี้แจงว่า นั่นเพราะไม่มีเซลล์ที่มีชีวิตอาศัยอยู่ในเคลือบฟัน มันจึงไม่สามารถซ่อมแซมหรือรักษาการผุด้วยตัวมันเองได้ ดังนั้น แม้ว่าคุณจะพยายามทำความสะอาดฟันที่เป็นรูของคุณมากเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์ จนกว่าจะได้รับการรักษาจากทันตแพทย์เท่านั้น เมื่อฟันผุ ลุกลาม จากชั้นเคลือบฟัน กัดกร่อนลึกถึงชั้นเนื้อฟัน รุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการทำลายถึงชั้นโพรงประสาทฟัน
วิธีการรักษาฟันผุ
- การรักษาขั้นพื้นฐานคือการอุดฟัน ทันตแพทย์จะสกัดเนื้อฟันเฉพาะส่วนที่ผุออก และตามด้วยการใช้วัสดุในการอุดฟัน
- หากการผุขยายพื้นที่มากขึ้น เกิดการเน่าเสียของเนื้อฟันที่รุนแรง จนไม่สามารถอุดฟันได้ ทันตแพทย์จะรักษาโดยการสกัดฟันส่วนที่ผุออก แล้วตามด้วยการครอบฟัน
- หากการผุของฟันลามลึกไปถึงส่วนในของเนื้อฟัน ทันตแพทย์จะทำการรักษารากฟัน โดยการทำความสะอาดโพรงประสาทฟันที่มีการติดเชื้อ แล้วทำการอุดฟัน ตามด้วยการครอบฟันเป็นขั้นตอนสุดท้าย
- ทางสุดท้ายหากไม่สามารถรักษาต่อไปได้ จะต้องทำการถอนฟันออกไป และทำฟันปลอมหรือรากฟันเทียมในที่สุด
การรักษา ฟันผุ ด้วยการอุดฟัน
ปัจจุบันนี้ ผู้คนมากมายมีปัญหาเกี่ยวกับฟันผุแล้วไม่ได้รักษาจนเกิดความเจ็บป่วยหรือสูญเสียฟันก่อนวัยอันสมควร ดังนั้นเมื่อเกิดฟันผุขึ้นมาแล้วการรักษาที่ป้องกันฟันผุเพิ่ม อย่างเช่น “การอุดฟัน”ก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อทำการรักษาแล้วก็ต้องใส่ใจดูแลช่องปากให้ถูกวิธีร่วมด้วยจึงจะเป็นการป้องกันที่ยั่งยืน ทำให้เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงต่อไปในอนาคตได้ เมื่อพบฟันผุขนาดเล็ก ยังไม่มีอาการปวด ให้รีบมาอุดฟัน หากปล่อยไว้จนผุ ใหญ่จนทะลุโพรงประสาทฟัน จนเสียวหรือปวดฟันอาจอุดไม่ได้ แล้วต้องถอนหรือรักษารากฟัน ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักหมื่น
การอุดฟัน คือ การใช้วัสดุอุดรูหรือโพรงที่เกิดจากฟันผุ เพื่อปิดช่องทางไม่ให้แบคทีเรียหรือเศษอาหารตกเข้าไปจนเกิดความเสียหายแก่เนื้อฟันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
วัสดุที่นำมาใช้อุดฟัน ได้แก่
อมัลกัม (Amalgam) เป็นวัสดุที่นิยมนำใช้มากที่สุดและใช้ง่ายที่สุด เพราะรวดเร็วและราคาไม่แพง (เป็นการผสมกันระหว่างปรอท เงิน ดีบุกหรือโลหะอื่นๆ) อยู่ได้ประมาณ 10-15 ปี ทนทานแต่จะไม่ถูกเลือกใช้กับบริเวณฟันหน้า
คอมโพสิตเรซิ่น (Composite Resin) เป็นวัสดุที่มีสีเหมือนสีฟัน เหมาะกับผู้ที่ฟันผุบริเวณฟันหน้า ให้ความสวยงามและแข็งแรงทนทาน
กลาสไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer) มักใช้อุดฟันเด็กเล็กหรือผู้มีความเสี่ยงต่อฟันผุสูง เพราะสามารถปล่อยฟลูออไรด์ได้
การเตรียมตัวก่อนอุดฟัน
- อันดับแรกคือการตรวจสุขภาพเหงือกและฟันก่อน ซึ่งฟันซี่ที่จะอุดได้ต้องเป็นฟันผุที่ไม่ลามไปจนถึงโพรงประสาทฟันและต้องมีเนื้อฟันเหลือพอให้วัสดุที่ใช้อุดฟันยึดเกาะได้
- หากมีโรคประจำตัวและกำลังรับประทานยาประจำอยู่ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่และทันตแพทย์ทราบด้วย
- หากมีฟันปลอมแบบถอดได้หรือรีเทนเนอร์ ต้องนำมาด้วย
การดูแลตัวเองหลังอุดฟัน
- ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มและแปรงฟันให้ถูกวิธี
- ใช้น้ำยาบ้วนปากต่อต้านแบคทีเรียอย่างน้อยวันละครั้งภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์
- ฟันที่ผ่านการอุด ไม่ว่าด้วยวัสดุอะไร ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งเกินปติ เช่น ก้อนน้ำแข็งถั่วตัด กระดูกอ่อน เพราะอาจทำให้วัสดุแตกหรือหลุดได้
การรักษาฟันผุด้วยการถอนฟัน
การถอนฟัน ถือเป็นหนึ่งในการรักษาสุขภาพช่องปากไว้ค่ะ และแน่นอนว่าเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด แต่เราก็ต้องยอมรับการสูญเสียฟันของเราไปด้วยค่ะ
สภาวะฟันที่ต้องถอน
- ฟันผุทะลุโพรงประสาทฟันหรือฟันที่มีหนองปลายรากฟันและมีอาการบวมบริเวณหน้าอย่างมาก ไม่สามารถให้การรักษาทางทันตกรรมด้านอื่นๆ เช่น การรักษาคลองรากฟัน
- ฟันที่มีโรคปริทันต์รอบๆตัวฟันที่รุนแรงอาจจะร่วมกับการเป็นหนองปริทันต์
- ฟันที่ได้รับอุบัติเหตุในลักษณะฟันหักหรือขากรรไกรหักผ่านฟันซึ่งทันตแพทย์พิจารณามาแล้ว ไม่สามารถเก็บไว้ได้
- ฟันคุดหรือฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาในช่องปากตามปกติ
- ฟันที่มีพยาธิสภาพ เช่น เกิดถุงน้ำหรือเนื้องอก
- ฟันเกินที่ขึ้นมาในลักษณะที่ไม่เป็นระเบียบ
- ฟันลักษณะอื่นๆ เช่น ฟันที่มีรูปร่างผิดปกติหรือฟันที่ขึ้นในตำแหน่งที่ผิดปกติที่ไม่ได้ใช้งาน
การเตรียมตัวก่อนถอนฟัน
- เตรียมร่างกายให้พร้อมเช่น พักผ่อนหลับนอนให้เต็มที่
- จิตใจพร้อมที่จะถอนฟัน หากท่านกลัวหรือเครียดมากควรบอกทันตแพทย์หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบด้วย
- รับประทานอาหารแต่พอประมาณ อย่าปล่อยให้หิวมากเกินไปเพราะอาจจะทำให้เป็นลมได้ง่ายในขณะถอนฟัน
- ไม่ควรรับประทานอาหารมากเกินไปเพราะอาจเกิดปัญหาภายหลังถอนฟันได้ เช่น ทางเดินหายใจอุดตันจากการสำลักอาหารซึ่งเป็นปัญหาแทรกซ้อนได้
ผู้มีโรคประจำตัวควรทำอย่างไร
ก่อนทำการถอนฟัน ทันตแพทย์จะทำการสัมภาษณ์ประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย วัดความดันโลหิต ตรวจนับชีพจร ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคเลือด ควรบอกให้ทันตแพทย์ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ที่มี ประวัติโรคเลือดออกง่าย หยุดยาก ควรถอนฟันภายในโรงพยาบาลเพราะอาจจะต้อง เตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อนถอนฟันเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดภายหลังการถอนฟัน
วิธีการถอนฟันทำอย่างไร
- ก่อนที่จะทำการถอนฟัน ทันตแพทย์จะตรวจประวัติทางการแพทย์และประวัติทางทันตกรรมอย่างถี่ถ้วน
- และจะทำการเอ็กซ์เรย์ฟันการเอ็กซ์เรย์จะทำให้เห็นถึงความยาว รูปร่างและตำแหน่งของฟันและกระดูกบริเวณรอบๆ ฟัน จากข้อมูลที่ได้ ทันตแพทย์จะสามารถประมาณระดับความยุ่งยากของกระบวนการการถอนฟัน และตัดสินใจว่าจะส่งตัวคุณไปหาผู้เชี่ยวชาญ หรือ ศัลยแพทย์ช่องปาก หรือไม่
- ก่อนทำการถอนฟัน ทันตแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณรอบๆ ฟันที่จะถูกถอน
- สำหรับการถอนฟันตามปกติธรรมดา เมื่อบริเวณที่จะถอนฟันเกิดอาการชาแล้ว ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องแซะในการทำให้ฟันหลวมจากเหงือก
- จากนั้นทันตแพทย์จะถอนฟันออกมาด้วยคีมถอนฟัน ทันตแพทย์อาจจะต้องปรับสภาพกระดูกที่อยู่ด้านล่างให้มีความเรียบเนียนขึ้น
- เมื่อทันตแพทย์ทำการถอนฟันเสร็จสิ้นแล้ว ทันตแพทย์อาจจะทำการปิดแผลด้วยการเย็บแผลข้อปฏิบัติหลังถอนฟัน1.กัดผ้าก็อซแน่นๆไว้ประมาน 1 ชั่วโมง มีเลือดหรือน้ำลายให้กลืน ห้ามดูดแผลหรือเลือด ห้ามบ้วนน้ำหรือน้ำลาย
2.เมื่อครบ 1 ชั่วโมง ให้คายผ้าก็อซออก หากยังมีเลือดไหลอยู่ ให้เปลี่ยนอันใหม่กัด ก่อนเปลี่ยนให้ล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3.ยาชาจะมีฤทธิ์ 1-2 ชั่วโมง หากมีอาการปวดให้ทานยาตามที่ทพ.สั่ง
4.เพื่อป้องกันอาการบวมหลังถอนฟัน ให้ทำการประคบอุ่น
5.งดสูบบุหรี่หรือทานเครื่องดื่มแอลกฮอล์ 24 ชั่วโมง
6.หลี่กเลี่ยงแปรงฟันบริเวณแผล 1-2 วัน
การรักษาฟันผุด้วยการทำฟันปลอม
เมื่อสูญเสียฟันแท้ ฟันปลอมจึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การบดเคี้ยวดำเนินต่อไปได้ อีกทั้งยังช่วยคงรูปหน้า การออกเสียง ให้เป็นปกติ
ฟันปลอม แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ฟันปลอมแบบติดแน่นกับแบบถอดได้ ซึ่งแบบติดแน่นนั้นจะทำเป็นลักษณะครอบฟัน สะพานฟัน ส่วนฟันปลอมแบบถอดได้สามารถแบ่งประเภทย่อยออกไปอีกตามลักษณะฟันและวัสดุที่ใช้เมื่อเทียบกันแล้ว ฟันปลอมแบบถอดได้ราคาจะย่อมเยากว่า แต่ความคงทนก็จะน้อยกว่าฟันปลอมแบบติดแน่น
ฟันปลอมแบบถอดได้ประเภทต่างๆ ได้แก่ ฟันปลอมบางส่วน ฟันปลอมทั้งปาก ฟันปลอมโครงโลหะ โครงพลาสติก ฯลฯ
ฟันปลอมถอดได้มีกี่แบบ
ฟันปลอมแบบถอดได้จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ ดังนี้
ฟันปลอมบางส่วน (Partial dentures) เป็นฟันปลอมที่ใช้สำหรับคนที่ฟันหลุดร่วงเป็นบางซี่ และยังมีฟันที่แข็งแรงเหลืออยู่ด้วย เช่น เกิดอุบัติเหตุ ฟันผุจนต้องถอน ลักษณะฟันจะเป็นซี่ฟันสวมเข้าไปติดเหงือกเอาไว้ สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ แต่อาจพบปัญหาสีฟันปลอมไม่เสมอกับฟันแท้ได้
ฟันปลอมทั้งปาก (Full dentures) ใช้สำหรับกรณีคนที่ประสบปัญหาทางการแพทย์บางอย่าง เช่น ติดเชื้อ โรคปริทันต์อักเสบ หรืออุบัติเหตุ จนฟันหลุดร่วงทั้งหมด ลักษณะฟันก็จะเป็นโครงฟันเสมือนจริงติดเข้ากับเหงือกเช่นกัน
จะเห็นได้ว่า คนที่มีปัญหาทันตกรรมบางชนิดก็สามารถใส่ฟันปลอมได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษากับทันตแพทย์เสียก่อน เพื่อให้ได้ฟันปลอมที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
และสำหรับใครที่กำลังฟันผุ ปวด หรือมีอาการอื่นๆที่สงสัยว่าฟันผุ เคยอุดฟันมาแล้วปวด หรือถอนฟันแล้วอยากทำฟันปลอม ที่โมเดริ์นสไมล์ก็มีข่าวดี เรียกว่า #รับขวัญใครไม่ได้เราชนะมาเป็นสมาชิกใหม่ สำหรับฟันปลอม 5%OFF ไม่มีใครชวนเข้า Club House มาสมัคร Club Members Cards กับ MODERN SMILE ล..ดสูงสุดถึง 10% กับบัตรสมาชิก ที่สมัครง่ายๆได้ส่วนลดไปง่ายๆ ลดทั้งทันตกรรม อุดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ถอนฟัน รักษารากฟัน สูงสุดถึง 10 เปอร์เซนต์กันไปเลย
สอบถามและรีบรับสิทธิได้แล้วที่นี่ คลิกเลย