การกลืนน้ำลายให้ถูกวิธี การกลืนน้ำลายที่ผิดวิธี ทำให้ฟันเก ฟันยื่นจริงหรือ?? การกลืนน้ำลายให้ถูกวิธี เป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน โดยการกลืนน้ำลายที่ถูกวิธีจะทำให้ลิ้นแตะบริเวณกลางเพดานด้านในหลังฟันหน้าประมาณ 2 เซนติเมตร และใช้กล้ามเนื้อบริเวณคอเป็นหลักในการกลืน การกลืนน้ำลายที่ผิดวิธี จะทำให้ฟันยื่นจริงไหม วันนี้มีคำตอบค่ะ ขั้นตอนการฝึกกลืนน้ำลายให้ถูกวิธี 1. ปิดปาก เก็บริมฝีปากให้ปิดสนิท 2. แตะลิ้น ให้ปลายลิ้นแตะเพดานด้านในหลังฟันหน้า 3. กลืนน้ำลาย กลืนน้ำลายโดยไม่ต้องดันลิ้น ใช้วิธีกลืนโดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณคอ 4. หายใจทางจมูก หายใจเข้าออกทางจมูก ไม่ควรหายใจทางปาก คลิปวิดิโอสาธิตการกลืนน้ำลาย ผลลัพธ์ของการฝึกกลืนน้ำลายที่ถูกวิธี 1 ฟันไม่เหยินหรือห่างขึ้น การฝึกกลืนน้ำลายที่ถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงของการเหยินหรือห่างของฟัน 2 สุขภาพช่องปากดีขึ้น การฝึกจะช่วยในการดูแลสุขภาพช่องปากและป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับการกลืนน้ำลายผิดวิธี กลืนน้ำลายผิดวิธีทำให้เกิดอะไรกับฟันได้บ้าง? โดยปกติมนุษย์จะกลืนน้ำลายราว 1,000-2,000 ครั้งใน 1 วัน และแต่ละครั้งก็มีแรงดันเกิดขึ้นที่ฟันหน้า ทำให้ฟันหน้าเกิดการเคลื่อนที่ออกมาด้านหน้ามากขึ้นทีละนิด ขณะกลืนน้ำลายเราควรสังเกตว่าปลายลิ้นไปแตะที่ฟันหน้าบนอยู่หรือไม่ ถ้าลิ้นไปโดนฟันหน้านั้น แสดงว่ากำลังกลืนน้ำลายผิดวิธี ซึ่งจะทำให้ฟันหน้ายื่น ฟันห่างได้ ในบางคนลิ้นสามารถดันฟันทั้งบนและล่างทำให้เกิดปัญหาของทั้งฟันบนและล่างในระยะยาวได้ การกลืนน้ำลายผิดวิธี ส่งผลต่อฟันได้ดังนี้ ฟันยื่น ปกติแล้ว เวลาเรากลืนน้ำลาย ลิ้นจะแตะเพดานด้านในหลังฟันหน้า แต่ถ้ากลืนน้ำลายผิดวิธี ลิ้นจะดันฟันหน้าทุกครั้งที่กลืน แรงกดนี้สะสม over time ส่งผลให้ฟันยื่นออกได้ ฟันห่าง การกลืนน้ำลายผิดวิธี ยังส่งผลให้ฟันหน้าและฟันล่างสัมผัสกันน้อยลง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟัน ปัญหาการสบฟัน การกลืนน้ำลายผิดวิธี ส่งผลต่อการสบฟัน อาจทำให้ฟันสบไม่สนิท เกิดปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร ปัญหาอื่นๆ การกลืนน้ำลายผิดวิธี อาจส่งผลต่อรูปหน้า ทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้น และส่งผลต่อการพูด สำหรับฟันที่ยื่น เหยินไปแล้ว ฟันห่าง หรือเกิดการสบเปิดขึ้น สามารถแก้ไขได้โดยการจัดฟัน จัดฟันใส Invisalign จัดฟันโลหะ วิธีสังเกตว่ากลืนน้ำลายว่าผิดวิธีหรือไม่ – เวลากลืนน้ำลาย รู้สึกว่าลิ้นดันฟันหน้า – ฟันเริ่มยื่นหรือห่างออก – มีปัญหาการสบฟัน – รู้สึกไม่สบายบริเวณขากรรไกร สรุป การกลืนน้ำลาย เป็นกระบวนการสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟัน การกลืนน้ำลายที่ถูกวิธีจะช่วยให้ฟันเรียงสวย ไม่ยื่นหรือห่าง และป้องกันปัญหาอื่นๆ ควรเริ่มฝึกการกลืนน้ำลายให้ถูกวิธีเพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้ หากต้องการคลินิกที่ปรึกษาเรื่องฟัน สามารถปรึกษาที่คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์ สาขาศรีราชา และสาขาพัทยา ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จองคิวหรือปรึกษาสุขภาพฟัน บริการปรึกษาฟรีทุกด้าน จบที่นี่ที่เดียว โมเดิร์น สไมล์ คลินิก สาขาศรีราชาและสาขาพัทยา โทร.085247-1333 สาขาศรีราชา โทร.085-2471222 สาขาพัทยา บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
Category Archives: Uncategorized
การดูแลสุขภาพฟันในเด็ก การดูแลสุขภาพฟันในเด็กเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้พวกเขามีฟันที่แข็งแรงและสุขภาพดีตั้งแต่ อายุยังน้อย สามารถเริ่มดูแลได้ตั้งแต่ 6 เดือนหรือฟันซี่แรกขึ้น การดูแลสุขภาพฟันในเด็ก การดูแลสุขภาพฟันในเด็ก เริ่มทำความสะอาดฟันของเด็กตั้งแต่อายุยังน้อยสามารถช่วยป้องกันฟันผุหรือมีปัญหาในอนาคต ใช้ผ้านุ่มหรือแปรงฟันเด็กที่มีขนแปรงนุ่มๆ เพื่อทำความสะอาดฟันและเหงือกตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมจะเริ่มขึ้นให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นโดยฟันน้ำนมจะขึ้นจนครบและอยู่จนถึงอายุ 11-12 ปี หลังจากนั้นฟันแท้ก็จะเริ่มขึ้นมาทดแทน ซึ่งในช่วงที่ฟันน้ำนมขึ้นถือว่าเป็นช่วงสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลช่องปากและฟันของลูกให้เป็นอย่างดี เพราะการมีเหงือกและฟันน้ำนมที่สมบูรณ์แข็งแรงจะส่งผลต่อฟันแท้ที่จะขึ้นมาให้ดูเป็นระเบียบร้อยและสวยงาม โดยในช่วงที่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นลูกน้อยจะมีอาการเจ็บในช่องปาก ระบมเหงือก หรือฟันจนไม่อยากเคี้ยวหรือกินอาหาร ซึ่งจะส่งผลในด้านโภชนาการตามมา เราจะดูแลฟันในทุกช่วงวัยอย่างไร ในช่วงเด็กแรกเกิด ช่วงแรกเกิดที่ลูกยังฟันไม่ขึ้น สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ เช็ดทำความสะอาดเหงือกลูกเบาๆ หลังดูดนมเสร็จ เช็ดบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นด้วย ช่วงเด็กอายุ 6 เดือน ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและให้ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ หรือเมื่อฟันน้ำนมขึ้นแล้ว ควรใช้นิ้วพันผ้าถูทำความสะอาดที่บริเวณฟันของลูกให้สะอาดเช่นเดียวกับการทำความสะอาดเหงือก ช่วงเด็กอายุ 1-3 ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฟันของลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และสามารถเริ่มใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กได้แล้ว คุณแม่ควรเริ่มสอนลูกแปรงฟัน โดยลองแปรงฟันให้ลูกก่อน และฝึกให้ลูกรู้จักการบ้วนน้ำก่อนที่จะให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง เพราะหากลูกเผลอกลืนยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้าไปก็อาจส่งผลเสียกับฟันของลูกได้ ช่วงเด็กอายุเด็ก 3-4 ปี เด็กเริ่มแปรงฟันเองได้แล้ว แต่ก็คงต้องคอยตรวจเช็คความสะอาดหลังแปรงฟันทุกครั้ง นอกจากนี้ควรพาลูกไปพบหมอฟันเป็นประจำเพื่อเช็คสุขภาพปากและฟัน รวมถึงรับคำแนะนำในการดูแล ช่วงเด็กอายุเด็ก 6 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นมาทดแทนแล้ว ทำให้ฟันน้ำนมจะเริ่มโยกและหลุดไปเอง แต่หากฟันแท้ขึ้นมาแล้ว แต่ฟันน้ำนมยังไม่ยอมหลุดนานเกิน 3 เดือน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา หรือ ถอนฟันน้ำนมออกเพื่อฟันแท้จะได้ขึ้นได้อย่างเป็นระเบียบ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี วางขนแปรงเข้าหาฟันให้ปลายขนแปรงอยู่บนบริเวณขอบเหงือกหรือคอฟัน เอียงขนแปรงทำมุม 45 องศาโดยประมาณกับตัวฟัน ปัดขนแปรงขึ้นลงกับแนวฟันบนและล่างทั้งด้านในและด้านนอกฟันให้ทั่ว จุดที่รู้สึกว่ามีเศษอาหารติดควรใช้เวลาในการแปรงจุดนั้นให้มากกว่าปกติ ฟันกรามสำหรับบดเคี้ยวอาหาร ให้วางหน้าตัดขนแปรงไว้ด้านบดเคี้ยว ถูซ้ำไปมาให้ทั่วทั้งฟันบนและล่าง การแปรงฟันในแต่ละตำแหน่งในช่องปากควรใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีหรือจนกว่าจะมั่นใจว่าสะอาดพอแล้วจึงเปลี่ยนไปแปรงฟันในตำแหน่งอื่น แปรงลิ้นทุกครั้งหลังจากแปรงฟัน แล้วเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ในตุ่มรับรส แปรงจนกว่าคราบขาวจะจางลงหรือหมดไป รู้หรือไม่ เราสามารถจัดฟันเพื่อลดปัญหารุนแรงในอนาคตของลูกได้ การจัดฟันใส Invisalign เป็นอีกหนึ่งช่องในการดูแลสุขภาพฟัน หรือที่เรียกว่า Invisalign Frist เป็นโปรแกรมจัดฟันใสที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการจัดฟันเกี่ยวกับการจัดการปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ช่วยให้ฟันเรียงตัวได้อย่างถูกต้องตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบใส Invisalign Frist สำหรับเด็กมีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กในช่วงอายุ 6-12 ปี ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : WWW.Modernsmiledentel.com วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูก แปรงฟันอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 2ครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน หรือขนมที่มีน้ำตาล เช่นลูกอม พาลูกไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้นซี่แรก และทุกๆ6เดือน เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน เคล็ดลับง่ายๆเมื่อลูกไม่ยอมแปรงฟัน ให้ลูกเลือกแปรงสีฟันรวมถึงอุปกรณ์การแปรงฟันตามที่ลูกชื่นชอบ เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากแปรงฟัน ใช้เพลงหรือวิดีเพื่อเสริมสร้างกิจกรรมการแปรงฟัน เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก แปรงฟันพร้อมกับลูกทุกครั้งเพิ่มเสริมสร้างความเป็นระเบียบและมีวินัยในการแปรงฟัน อธิบายความสำคัญของการแปรงฟัน เพื่อให้ลูกมีความรู้สึกอยากแปรงฟันมากขึ้น จองคิวหรือปรึกษาสุขภาพฟัน บริการปรึกษาฟรีทุกด้าน จบที่นี่ที่เดียว โมเดิร์น สไมล์สาขาศรีราชาและสาขาพัทยา โทร.085247-1333 สาขาศรีราชา โทร.085-2471222 สาขาพัทยา บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน ซึ่งการดูแลสุขภาพฟันนั้น ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่ที่การแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันเท่านั้น แต่การเลือกอาหารที่ถูกต้อง ก็มีบทบาทสำคัญในการรักษาฟันให้แข็งแรงและป้องกันปัญหาฟันผุ หรือโรคเหงือกต่างๆ ได้ มาดูกันว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพฟันของคุณได้ วันนี้แอดมินมาแชร์ความรู้ดีๆเกี่ยวกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพฟันมาฝากกันค่ะ ว่าการกินส่งผลดีหรือผลเสียอย่างไรบ้าง ที่ส่งผลต่อสุขภาพฟันของเรา และมีอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรบ้าง ที่ส่งผลต่อสุขภาพฟันของเรา รวมไปถึงวิธีการแก้ไขปัญหาหากเกิดฟันเหลือง ตามมาดูกันเล๊ยยยย อาหารที่ดี ต่อสุขภาพฟัน สุขภาพฟันที่ดี สร้างได้จากการกิน ซึ่งเครื่องดื่มหรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพฟันนั้น มีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีเส้นใยสูง วิตามินซี และวิตามินบี2 ซึ่งช่วยทำความสะอาดฟัน ป้องกันโรคเหงือก และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟัน ดังนี้ ผักและผลไม้สด เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลี แครอท ฝรั่ง แตงกวา ฝรั่ง ส้ม สับปะรด ชมพู่ มันแกว เป็นต้น มีเส้นใยสูง และวิตามินซีสูง ช่วยทำความสะอาดฟันและป้องกันโรคเหงือก ชีสและนม มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟันและเคลือบฟัน เนื้อปลา มีฟลูออไรด์ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยป้องกันฟันผุ ถั่วและธัญพืช เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ รำ มีวิตามินบี 2 สูง ช่วยป้องกันมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ น้ำเปล่า ช่วยล้างเศษอาหารและแบคทีเรียออกจากฟัน และช่วยเจือจางกรดในช่องปาก อาหาร ที่ทำร้ายสุขภาพฟัน อาหารที่ทำร้ายสุขภาพฟัน และครื่องดื่มที่มีผลต่อสุขภาพฟัน มีหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลและกรดสูง จะส่งผลเสียต่อผิวเคลือบฟันและอาจทำให้ฟันผุได้ ดังนี้ ลูกอมหรือลูกกวาด มีน้ำตาลจำนวนมากและอาจมีสารพิษจากสีที่ไม่ควรนำมาประกอบอาหาร เช่น สีย้อมผ้า, สีย้อมกระดาษ และสีย้อมเส้นใย ซึ่งอาจปนเปื้อนจากโลหะหนักอย่างตะกั่ว, สารหนู หรือโครเมียม โซดาหรือน้ำอัดลม มีกรดคาร์บอนิกและน้ำตาลสูง ทำให้ผิวเคลือบฟันบางลงและอาจทำให้ฟันผุได้ นอกจากนี้ยังมีปริมาณฟอสฟอรัสมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อโรคกระดูกพรุน น้ำหวานและเครื่องดื่มชูกำลัง มีน้ำตาลจำนวนมากและคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและเป็นโรคเบาหวานตามมา นอกจากนี้ยังมีสารให้ความหวานและสารกระตุ้นที่อาจส่งผลต่อภาวะโรคอ้วน, โรคหัวใจและหลอดเลือด ชาและกาแฟ มีสารแทนนิน (Tannin) ทำให้เกิดคราบเหลืองบริเวณผิวฟัน และมีน้ำตาลสูงและมีกรดสูงที่ทำลายผิวเคลือบฟัน น้ำแข็ง แม้จะผลิตมาจากน้ำสะอาด แต่การกัดเคี้ยวน้ำแข็งเป็นประจำอาจส่งผลให้ผิวเคลือบฟันสึกกร่อนจากการใช้งานหนัก ผลไม้กระป๋อง มีน้ำเชื่อมที่ทำมาจากน้ำตาล ซึ่งอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น เกิดโรคกระดูกพรุน, เลือดมีภาวะเป็นกรด, สมองทำงานช้าลง และที่สำคัญยังเร่งการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว อาหาร บำรุงเหงือก อาหารที่บำรุงเหงือกจะส่งผลต่อ สีของเหงือก สามารถบ่งบอกสุขภาพของคุณได้ หมั่นสำรวจตัวเองเป็นประจำ 1. ผักใบเขียวและผลไม้ เช่น ผักโขมและคะน้า มีวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างเหงือก ส้มและสตรอว์เบอร์รี ช่วยป้องกันเหงือกอักเสบ 2. โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนม มีแคลเซียมเสริมสร้างเหงือก 3. ถั่วและเมล็ดพืช เช่น อัลมอนด์, มีวิตามิน E และแร่ธาตุช่วยบำรุงเหงือก ทำไมอาหารที่มีน้ำตาลถึงทำร้ายฟัน องค์ประกอบของอาหารที่มีน้ำตาล เป็นส่วนประกอบที่สามารถทำร้ายฟันได้เนื่องจากกระบวนการดังต่อไปนี้ แบคทีเรียในช่องปากย่อยสลายน้ำตาล เมื่อรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล แบคทีเรียในช่องปากจะย่อยสลายน้ำตาลเหล่านี้และผลิตกรดแลคติก กรดนี้จะโจมตีผิวเคลือบฟันและทำให้เกิดการสึกกร่อน กรดทำลายผิวเคลือบฟัน กรดแลคติกที่ผลิตโดยแบคทีเรียจะละลายแร่ธาตุในผิวเคลือบฟัน เช่น แคลเซียมและฟอสเฟต เมื่อเวลาผ่านไป การสึกกร่อนนี้จะทำให้เกิดฟันผุ น้ำตาลเกาะติดฟัน อาหารที่มีน้ำตาล เช่น ลูกอมและเครื่องดื่มอัดลม มักจะเกาะติดฟันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียมีเวลาย่อยสลายน้ำตาลและผลิตกรดมากขึ้น น้ำตาลส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย น้ำตาลเป็นแหล่งอาหารสำหรับแบคทีเรียในช่องปาก การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลเป็นประจำจะช่วยให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การผลิตกรดที่มากขึ้นและความเสี่ยงต่อฟันผุที่สูงขึ้น อาหารที่ทำให้ฟันเหลือง อาหารที่ทำให้ฟันเหลืองมีหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มหรือเป็นกรด สามารถทำให้คราบสีและคราบจุลินทรีย์เกาะติดบนผิวฟัน และทำให้ฟันเหลืองได้ 1. กาแฟ มีสารประกอบที่สร้างสีน้ำตาลที่สามารถสร้างคราบบนผิวฟันของคุณได้ 2. ชา มีสารแทนนิน ทำให้เกิดคราบ ยิ่งสีชาเข้มขึ้นเท่าไร ฟันของคุณก็จะยิ่งเป็นคราบมากขึ้นเท่านั้น 3. ไวน์แดง การดื่มไวน์แดงเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดคราบฟัน 4. น้ำอัดลม อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบได้ เพราะเป็นกรดที่สามารถกัดกร่อนเคลือบฟันของคุณได้ 5. น้ำผลไม้สีเข้ม เช่น แครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และน้ำองุ่น มีแนวโน้มที่จะทิ้งคราบไว้บนฟันของคุณ 6. น้ำมะนาว ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาวและมะนาวมีสภาพเป็นกรดสูงและสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันได้ 7. ซอสมะเขือเทศ เนื่องจากมีเม็ดสีที่ทำให้เกิดสีแดงเข้ม 8. อาหารประเภทแกงที่มีสีเข้มข้น อย่างเช่นแกงกระหรี่ อาจทำให้เกิดคราบทิ้งร่องรอยการบอกเล่าไว้บนฟันของคุณได้ 9. ซีอิ๊ว เพราะมีสีเข้มของถั่วเหลืองอาจคงอยู่เป็นเวลานานหลังจากมื้ออาหารของคุณเสร็จสิ้นและทำให้เกิดคราบที่ฟันได้ 10. บีทรูท จริงอยู่ที่เป็นผักที่มีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย แต่ด้วยเม็ดสีที่ผสมอยู่เข้มข้นก็สามารถทำให้เกิดคราบที่ผิวฟันของคุณได้เช่นกัน เพื่อป้องกันปัญหาฟันเหลือง ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดเครื่องดื่มและอาหารที่มีผลต่อสีของฟัน และดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี เช่น แปรงฟันอย่างถูกวิธีและบ้วนปากหลังอาหาร ฟันเหลือง ทำไงดี หากเจอปัญหาฟันเหลือง สามารถแก้ไข้ได้หลายวิธีเลยค่ะ แอดมินจะมาแชร์ 1 ในวิธีที่จะทำให้ฟันที่เหลืองกลับมาขาวดังเดิม นั่นคือออ การฟอกสีฟัน! การฟอกสีฟัน เป็นกระบวนการปรับเม็ดสีในชั้นเคลือบฟันให้ขาวขึ้นด้วยการใช้น้ำยาฟอกสีฟันและพลังงานแสง Cool light การฟอกสีฟันมีประโยชน์หลายด้าน 1 แก้ไขปัญหาฟันที่มีสีคล้ำ สีน้ำตาล สีเหลือง และมีคราบต่างๆบนฟัน ให้มีความขาวมากขึ้น 2 ปรับปรุงรอยยิ้มให้ดูสดใสขึ้น ทำให้รอยยิ้มดูสดใสและมั่นใจมากขึ้น 3 เพิ่มความมั่นใจและช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น โดยทำให้ฟันขาวสะอาดและสวยงาม 4 ช่วยขจัดคราบหินปูน ทำให้ฟันขาวสะอาดและสดใส 5 เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันเหลือง โดยเฉพาะจากสาเหตุภายนอกตัวฟัน เช่น จากสีของอาหาร เครื่องดื่ม บุหรี่ และคราบแบคทีเรีย สรุป โดยรวมแล้ว ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำร้ายสุขภาพฟัน จะช่วยให้ฟันแข็งแรงและป้องกันโรคฟันพุได้ ปัญหาฟันเหลืองถือเป็นปัญหาที่กวนใจหลายๆคน ทำให้เสียความมั่นใจ แต่เราสามารถช่วยคุณได้ด้วยการฟอกสีฟัน โปรโมชั่น 4,999 บาท จากราคาปกติ 10,000 บาท สามารถเข้ามาปรึกษาก่อนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย อย่าลืมแปรงฟันหลังทานอาหาร และพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อการดูแลฟันที่ดียิ่งขึ้น ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลกับ โมเดิร์น สไมล์ คลินิก สาขา ศรีราชา และพัทยา เพิ่มเติม ได้ที่….. บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
การจัดฟันใส Invisalign ในเด็ก Invisalign เป็นตัวเลือกการจัดฟันที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ แต่ทราบหรือไม่ว่า Invisalign ยังสามารถใช้จัดฟันในเด็กได้อีกด้วย ซึ่งจะเรียกการจัดฟันใสในเด็กว่า Invisalign First เป็นโปรแกรมจัดฟันใสที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการจัดฟันเกี่ยวกับการจัดการปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ช่วยให้ฟันเรียงตัวได้อย่างถูกต้องตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบใส Invisalign Frist สำหรับเด็กมีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กในช่วงอายุ 6-12 ปี สารบัญ Invisalign First คืออะไร คุณสมบัติของ Invisalign First ข้อดีของ Invisalign First ทำไมต้อง Invisalign First ถามตอบการจัดฟันใส Invisalign First สรุป การจัดฟันใส Invisalign ในเด็ก Invisalign Frist คืออะไร Invisalign First เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใสที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เหมาะแกเด็กในช่วงวัยอายุ 6-12 ขวบ การจัดฟันใสรูปแบบของ Invisalign Frist จะช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งเป็นโปรแกรมจัดฟันใสที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ช่วยให้จัดการกับปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ช่วยให้ฟันเรียงตัวได้อย่างถูกต้องตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบใส Invisalign ในเด็กจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการจัดฟันเนื่องจากไม่ทำลายรากฟัน และสามารถช่วยลดปัญหาการถอนฟัน รวมถึงช่วยปรับโครงหน้าให้สมดุลและสวยงาม ซึ่งทันตแพทย์จัดฟันที่มีประสบการณ์ในการรักษาเด็ก ทันตแพทย์จะประเมินความเหมาะสมและออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้ที่ โมเดิร์น สไมล์ คลินิก ทั้งสาขาศรีราชา พัทยา คุณสมบัติของ Invisalign First เป็นนวัตกรรมใหม่ในการจัดฟันเฉพาะกลุ่มที่ออกแบบมาให้พอดีกับช่องปากของเด็กที่กำลังเติบโต ซึ่งมีความสะดวกสบายในการดูแล เครื่องมือถอดออกได้ง่าย ทำความสะอาดง่าย สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองเหงือกและกระพุ้งแก้ม และเมื่อมีการใส่อุปกรณ์จัดฟันแล้วก็จะไม่เห็นเครื่องมือจัดฟันในขณะสวมใส่ ข้อดีของ Invisalign First แทบมองไม่เห็น: เครื่องมือจัดฟัน Invisalign นั้นโปร่งใส ทำให้เด็กๆ รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเขินอายเพื่อน ถอดออกได้: เด็กๆ สามารถถอดถาดจัดฟัน Invisalign ออกได้เพื่อทานอาหาร แปรงฟัน และทำความสะอาด ช่วยให้รักษานิสัยสุขอนามัยที่ดี สบายใจ: อุปกรณ์จัดฟัน Invisalign นั้นทำจากพลาสติกชนิดพิเศษที่นิ่มนวล ไม่ระคายเคืองต่อช่องปาก มีประสิทธิภาพ: Invisalign First สามารถแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติได้หลากหลายประเภท เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง และปัญหาขากรรไกร ช่วยให้การเจริญเติบโตของฟันเป็นไปอย่างถูกต้อง: การจัดฟันด้วย Invisalign First ในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ช่วยให้ขากรรไกรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับฟันแท้ที่ขึ้นใหม่ ช่วยลดความเสี่ยงในการต้องถอนฟันหรือผ่าตัดในอนาคต ทำไมต้อง Invisalign First วัสดุ SmartTrack วัสดุที่ยืดหยุ่นสูง ให้ความรู้สึกกระชับและนุ่มนวลมากขึ้น ด้วยแรงกดที่สม่ำเสมอกว่าที่เคย สามารถคาดการณ์ การเคลื่อนของฟัน พร้อมทั้งช่วยให้เคลื่อนฟันได้สบายมากยิ่งขึ้น คุณสมบัติ SmartForce มีกลไกสร้างแรงกดที่จำเป็นเพื่อให้การเคลื่อนฟันมีประสิทธิภาพสูงสุดและคาดถึงผลลัพธ์ได้แบบซี่ต่อซี่หรือทีละหลายซี่ เทคโนโลยี Smartstage กำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการเคลื่อนฟันโดยใช้อัลกอริธึ่มที่ล้ำหน้าเพื่อคาดถึงผลลัพธ์และประสิทธิภาพในการจัดฟัน ด้วยนวัตกรรม การจัดฟัน Invisalign First ในเด็ก สามารถกำหนดลักษณะการเติบโตของขากรรไกรในเด็กได้ -แก้ไขปัญหาฟันสบกัน -ลดความเสี่ยงการเกิดบาดแผลจากฟันยื่นในเด็ก -แก้ไขนิสัยเกี่ยวกับการใช้ปากที่เป็นอันตรายได้แต่แรกเริ่ม -ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพในเด็ก -กำหนดลักษณะของฟันแท้ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง -ช่วยให้ฟัน ปากและรูปหน้าเข้าที่มากขึ้น ถาม – ตอบ การจัดฟันใส Invisalign First เด็กอายุเท่าไหร่ถึงจะจัดฟันด้วย Invisalign First ได้? โดยทั่วไปแล้ว Invisalign First เหมาะสำหรับเด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 12 ปี ทันตแพทย์จัดฟันจะประเมินความเหมาะสมของเด็กแต่ละคน การจัดฟันด้วย Invisalign First ใช้เวลานานแค่ไหน? ระยะเวลาในการจัดฟันด้วย Invisalign First นั้นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาการเรียงตัวของฟัน โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 12 ถึง 24 เดือน Invisalign First มีราคาเท่าไหร่? ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันด้วย Invisalign First นั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก โดยทั่วไปแล้วจะมีราคาแพงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ สรุป Invisalign First เป็นตัวเลือกการจัดฟันที่เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปีที่มีปัญหาการจัดฟัน เครื่องมือจัดฟันใสนี้สะดวกสบาย แทบมองไม่เห็น และช่วยป้องกันปัญหาการจัดฟันที่รุนแรงขึ้นในอนาคต โดยระยะเวลาในการจัดฟันด้วย Invisalign First นั้นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาการเรียงตัวของฟัน โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 12 ถึง 24 เดือน โดยการจัดฟัน Invisalign First จะใช้ วัสดุ SmartTrack ที่,มีความยืดหยุ่นสูง , คุณสมบัติ SmartForce มีกลไกสร้างแรงกดที่จำเป็นเพื่อให้การเคลื่อนฟันมีประสิทธิภาพ และ เทคโนโลยี Smartstage กำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการเคลื่อนฟัน ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โมเดิร์นสไมล์สาขาศรีราชา 085-2471222 โมเดิร์นสไมล์สาขาพัทยา 085-2471333 Line : https://line.me/ti/p/2eoqb-5Cp- Website : https://modernsmiledental.com/ Instragarm : https://www.instagram.com/modernsmile.dental/ Facebook : https://www.facebook.com/ModernSmileDental สาขาศรีราชา ที่อยู่: 1 8-9 ถนน ศรีราชานคร Tambon Sriracha, อำเภอศรีราชา ชลบุรี 20110 สาขาพัทยา ที่อยู่: 418 ทำฟัน จัดฟัน พัทยา Modern Smile Dental Clinic 9 ถนน พัทยา [/ux_text]
คนท้องสามารถทำฟันได้ไหม สารบัญ การดูแลฟันในช่วงเวลาการตั้งครรภ์ ข้อควรระวังการทำฟันในช่วงตั้งครรภ์ อาหารที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก ปัญหาสุขภาพช่องปากในระหว่างตั้งครรภ์ คนท้องสามารถทำฟันได้ไหม สรุป ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คนท้องสามารถทำฟันได้ไหม ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่สามารถทำฟันได้ตามปกติ เช่น อุดฟัน หรือขูดหินปูน เพราะจริงๆ แล้วควรรีบดูแล และรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ หากปล่อยเอาไว้อาจมีอาการเจ็บปวด หงุดหงิด รำคาญใจ หรือทำให้ยุ่งยากในการดูแลรักษา วันนี้แอดมินจะมาแจ้งรายละเอียดการดูแลสุขภาพฟันในช่วงตั้งครรภ์รวมถึงข้อมูลอื่นๆให้กับแม่ที่ตั้งครรภ์ได้เตรียมพร้อมกับการดูแลสุขภาพช่องปากกันนะคะ การดูแลฟันในช่วงเวลาตั้งครรภ์ เมื่ออายุครรภ์ครบ 4-6 เดือน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ร่วมกับการทำควาสะอาดซอกฟันทุกวัน หลังเกิดการอาเจียนการแพ้ท้องหรือรับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน และนมเปรี้ยวเป็นต้น ข้อควรระวังการทำฟันในช่วงตั้งครรภ์ เลือกทันตแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพช่องปากขณะตั้งครรภ์ แจ้งให้ทันตแพทย์ทราบถึงการตั้งครรภ์: การแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พวกเขาสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้ ระวังการใช้ยา: แนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์ก่อนใช้ยาฆ่าเชื้อหรือยาแก้ปวดฟัน การดูแลสุขภาพช่องปากขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และสุขภาพของทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์และทันตแพทย์เพื่อรักษาสุขภาพช่องปากในระหว่างการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด อาหารที่ดีต่อสุขภาพช่องปากสำหรับคุณแม่ที่ครรภ์ อาหารที่มีเส้นใยสูง ได้แก่ ผักและผลไม้ บางชนิด เช่น แตงกวา ฝรั่ง มะเขือเทศ ชมพู่ มันแกว จะช่วยทำความสะอาดฟัน ดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ถ้าต้องการเครื่องดื่ม รสหวาน เลือกน้ำสมุนไพรอ่อนหวาน หรือผลไม้ คั้นสดแทนน้ำอัดลม เพราะน้ำอัดลมมีน้ำตาลมาก และมีกรดคาร์บอนิกอีกด้วย อาหารที่มีวิตามินซี (Ascorbic Acid) เช่น ผักสด ผลไม้สด ส้ม สับปะรด กะหล่ำปลี แครอท ผักคะน้า เป็นต้น ช่วยในการรักษาเหงือก ฟัน กระดูก อาหารมีวิตามินบี2 (Riboflavin) ประเภทถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ รำ ธัญพืช ไม่ขัดสี เห็ด มะม่วง ช่วยป้องกันมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ ไม่ควรทานอาหารที่แข็งมาก เช่น น้ำแข็ง กระดูก อาจทำให้ฟันสึก และแตกหักได้ ไม่ควรรับประทานอาหารจุบจิบ จะทำให้มีการตกค้างของเศษอาหารในช่องปากตลอดเวลา ช่องปากจึงมีสภาพเป็นกรด ทำลายผิวเคลือบฟัน ทำให้เกิดฟันผุ จะทำให้ทำให้เกิดกลิ่นปากและชนิดที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือจิบน้ำบ่อยๆ เพราะถ้าปากแห้ง มีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นปาก และมีเพราะถ้าปากแห้ง มีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นปาก และมีฟันผุมากกว่าคนทั่วไป เพราะขณะปากแห้งเชื้อโรคในช่องปากจะเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้มากกว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากระหว่างตั้งครรภ์ ฟันผุ เนื่องจากมีการรับประทานอาหารบ่อย จึงทำให้มีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน และในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกอาจมีอาการอาเจียนทำให้มีกรดจากกระเพาะอาหารติดตามซอกฟัน ทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย ภาวะโรคเหงือกอักเสบ ช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น จนทำให้หลอดเลือดขนาดเล็กของเหงือกเปลี่ยนแปลง ทำให้อักเสบและเลือดออกง่ายเป็นแผลในช่องปาก จนทำให้ไม่กล้าแปรงฟัน การดูแลทำความสะอาดช่องปากไม่เพียงพออาจจะทำให้เกิดภาวะ คลอดก่อนกำหนดได้ ระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่มักทานอาหารพวกแป้ง และน้ำตาล ซึ่งทำให้คราบแบคทีเรียเติบโตได้ดี และติดอยู่ตามซอกฟันกลายเป็นคราบหินปูน ทำให้เหงือกอักเสบและมีเลือดออกตามไรฟัน คนท้องสามารถทำฟันได้ไหม จริงๆแล้วสามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่อายุครรภ์เหมาะสม 4-6 เดือนค่ะ แต่หลายคนก็สงสัยว่าทำไมอายุครรภ์ในช่วงอื่นๆทำไมถึงทำฟันไม่ได้ เพราะช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรก ในช่วงเวลานี้ไม่เหมาะกับการทำฟัน เพราะคุณแม่บางท่านอาจจะมีอาการแพ้ท้องอาเจียนบ่อย ซึ่งไม่สะดวกในการมาอ้าปากให้ทำฟันเพราะการทำฟันอาจกระตุ้นให้เกิดการอาเจียนมากขึ้น และน้ำย่อยจากกระเพาะมีฤทธิ์เป็นกรดจะทำลายผิวเคลือบฟัน อีกทั้งในช่วงนี้ลูกในครรภ์มีการสร้างและพัฒนาของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างมาก การมาทำฟันอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการเครียดซึ่งไม่ส่งผลดีต่อลูกในครรภ์ ช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนสุดท้ายท้ายก่อนคลอด ในช่วงเวลานี้ไม่เหมาะกับการทำฟัน เพราะขนาดครรภ์ไม่เอื้อต่อการนั่งหรือนอนบนเก้าอี้ทำฟันที่เป้นระยะเวลานานๆ สรุป การทำฟันช่วงการตั้งครรภ์สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ช่วงอายุครรภ์ 4-6 เดือน หรือช่วงไตรมาสที่สอง (14-20 สัปดาห์) ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำฟันคือ ส่วนคนท้องที่จัดฟันอยู่แล้วทันตแพทย์แนะนำว่า ไม่ต้องหยุด สามารถจัดฟันต่อไปได้เลย แต่ถ้าหากยังไม่ได้จัดฟัน แต่คิดที่จะจัดในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์อยู่แนะนำให้รอก่อน เพราะในการจัดฟันจะต้องมีการเอกซเรย์ ซึ่งจะเป็นการปลอดภัยมากกว่าถ้าทำเมื่อคลอดลูกแล้ว ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการดูแลสุขภาพฟันอยู่สม่ำเสมอนะคะ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel.085-2471333 สาขาศรีราชา Tel.085247-1222 สาขาพัทยา Website :https://modernsmiledental.com/ Facebook :https://www.facebook.com/ModernSmileDental Line ID :@modernsmile Instragram :https://www.instagram.com/modernsmile.dental/ สาขาศรีราชา ที่อยู่: 1 8-9 ถนน ศรีราชานคร Tambon Sriracha, อำเภอศรีราชา ชลบุรี 20110 สาขาพัทยา ที่อยู่: 418 ทำฟัน จัดฟัน พัทยา Modern Smile Dental Clinic 9 ถนน พัทยา
📢 โปรสวยตะโกน 399 📢 สารบัญ โปรสวยตะโกน จัดฟัน 399 สาขาพัทยา รายละเอียดการผ่อนชำระ ขั้นตอนจัดฟัน สรุป 📢 โปรสวยตะโกน จัดฟันโลหะ 399 สาขาพัทยา 📢 สวยตะโกน โปรจัดฟันโลหะ 399 สาขาพัทยา เปิดโปรโมชั่นตอนรับปีใหม่ 2567 เป็นการจัดฟันประเภทโลหะ จัดขึ้นเฉพาะสาขาพัทยาเท่านั้น โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟัน ซึ่งคุณภาพเทียบเท่ากับการจัดฟันแบบปกติ อยากฟันสวย ดูดีได้ ด้วยการจัดฟันที่มีคุณภาพ ที่ ศูนย์ทันตกรรม แบบครบวงจร โมเดิร์น สไมล์ คลินิก สาขาพัทยา ทันตแพทย์ ผู้ดูแลเคส – คุณหมอต้า ทพ. พงศ์ชาญ จิรลักษณวงษ์ ระยะเวลาโปรโมชั่น 3 มกราคม – 31 มีนาคม 2567 🎀 รายละเอียดการผ่อนชำระ 🎀 📌 พิมพ์ปาก + เอกซเรย์ครั้งแรก 399 บาท (จากราคาปกติ 3,100 บาท) 📌 ชำระ 24 ครั้ง ครั้งละ 1,500 บาท ตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดเครื่องมือ 📌ส่วนลด20% สำหรับเคลียร์ช่องปาก (เฉพาะที่คลินิกโมเดิร์นสไมล์ สาขาพัทยา เท่านั้น)ฟรี รีเทนเนอร์ 1 คู่ (มูลค่า 6,000 บาท) 📌 ฟรีติดเครื่องมือ, ถอดเครื่องมือ 📌 ฟรีปรึกษาทันตแพทย์ก่อนจัด ⭕ทุกครั้งที่มาพบคุณหมอจะเสียค่าปลอดเชื้อ 100 บาท ครั้งแรกที่มาพบคุณหมอ คุณหมอจะชักประวัติ (ปรึกษาฟรี) ⭕เครื่องมือหลุด 3 ตัวแรก ฟรี ตัวต่อไปคิด 300 บาท (จากปกติราคา 500 บาท) ⭕กรณีใส่เครื่องมือเสริม (เฉพาะบางกรณีเท่านั้น) จะคิดแค่ราคาเครื่องมือ เช่น ติดสกรูตัวละ 5,000 บาท, ติดเรสไปร์ท 2 ตัว 1,000 บาท ⭕หากกรณีผิดนัดติดต่อกันเกิน 3 เดือน คนไข้จะต้องชำระค่าใช้จ่ายจำนวน 1,500 บาท จะกว่าจะถอดเครื่องมือ และจะต้องชำระค่าใช้จ่ายอื่นๆเป็นราคาเต็มของบริษัท (รีเทนเนอร์,ติดเครื่องมือพิเศษ) และจะถือว่าโปรโมชั่นนี้เป็นโมฆะ ⭕ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากประชาสัมพันธ์สาขาพัทยา และทันตแพทย์ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 💗 ข้อดีแบบโลหะ 💗 1.ช่วยให้ฟันที่เก ซ้อน ห่าง เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบตามต้องการ 2.เพิ่มความมั่นใจบุคลิกภาพดีขึ้น กล้าพูด กล้าแสดงออก 3.ส่งเสริมระบบการเคี้ยวอาหารดีขึ้น และการสบฟันดีขึ้น 4.ทำให้สุขภาพปากและฟันดีขึ้น 5.แก้ไขปรับรูปหน้าให้เปลี่ยนแปลงขึ้นได้ 6.ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะ : จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล 💥 ขั้นตอนจัดฟันโลหะ 💥 1.เข้ามาปรึกษาฟรีกับทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวิเคราะห์ปัญหาฟันและช่องปาก 2.หากสนใจทำทางทันตแพทย์จะถ่ายเอ็กซเรย์ เพื่อให้เห็นถึงความผิดปกติของกระดูกและฟัน ทันตแพทย์จะส่งต่อหมอทั่วไปในการเคลียร์ช่องปากก่อนการติดเครื่องมือ 3.นัดหมายเพื่อติดเครื่องมือจัดฟัน และนัดมาปรับเครื่องมือเดือนละครั้งหรือ โดยความถี่จะขึ้นอยู่กับปัญหาการสบฟันของคนไข้หลังจัดเสร็จ คนไข้ยังคงต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำ และต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ตลอดระยะเวลาของการใส่รีเทนเนอร์ 4.กลับมาตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน หลังจัดฟันเสร็จ เพื่อให้ฟันยังคงเรียงตัวสวย มีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง **หมายเหตุ ** การจัดฟันแบบโลหะ จะถูกมองว่าจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการจัดฟันแบบอื่นนั้น แต่ความจริงแล้วเป็นการจัดฟันมีประสิทธิภาพอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ควรเลือกการจัดฟันที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดจะดีกว่า เพราะการจัดฟันไม่ว่าแบบไหนก็ต้องใช้ระยะเวลาหลายปี และอยู่ภายใต้การวางแผนของทันตแพทย์เฉพาะทาง ดูแลฟันอย่างไร หลังจากจัดฟัน เพื่อสุขอนามัยในช่องปากที่ดี เพราะฟันของคุณต้องได้รับการดูแลอย่างดีหลังจากจัดฟัน 1.แปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง 2.ใช้แปรงสีฟันจัดฟันและไหมขัดฟันทำความสะอาดฟัน 3.เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมฟลูออไรด์ 4.หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่เหนียว และแข็ง เพราะจะทำให้เครื่องมือหลุด 5.พบทันตแพทย์ทุก 1 เดือน และขูดหินปูนทุก 6 เดือน สรุป สวยตะโกน โปรจัดฟันโลหะ 399 สาขาพัทยา เป็นรูปแบบการจัดฟันแบบโลหะ กับคุณหมอเฉพาะทางด้านทางจัดฟัน จัดโปรขึ้นเฉพาะสาขาพัทยาเท่านั้น ซึ่งคุณภาพที่ได้ไม่แตกต่างกับราคาการจัดฟันแบบปกติ ที่ต้องจ่ายและชำระการจัดฟันที่ค่อนข้างแพง สำหรับโปรโมชั่นจัดฟันนี้ ยังสามารถ ผ่อนชำระได้อีกด้วย แถมยังได้ส่วนลดในการเคลียร์ช่องปาก และได้ของแถมเยอะเเยะมากมาย เช่น รีเทนเนอร์ ปรึกษาทันตแพทย์ฟรี ค่าอุปกรณ์เครื่องมือในการจัดฟันฟรี เป็นต้น 💌 ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม โมเดิร์น สไมล์ สาขาศรีราชา และ พัทยา 💌 สาขาศรีราชา : 085-2471333 สาขาพัทยา : 085-2471222 Line ID : @modernsmile Instagram : modernsmile Website : Modernsmile dental Clinic
สีเหงือก บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ หากคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับ สีเหงือก และความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพทั้งร่างกายและช่องปากของคุณ วันนี้แอดมินมีข้อมูลดีๆมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ สารบัญ – สีของเหงือกบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ – อาการของโรคเหงือกและโรคปริทันต์ – การดูแลเหงือกให้มีสุขภาพที่ดี – วิธีเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง – สรุป 🌟 สีเหงือกบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ สีของเหงือกสามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและสุขภาพรวมของเราได้ดังนี้ 1. สีชมพู เหงือกที่มีสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพที่ดีของช่องปาก แสดงถึงการไหลเวียนของเลือดที่ดีและการดูแลช่องปากที่เหมาะสม 2. สีแดง หรือบวม เหงือกที่แดง บวม หรือเลือดออกอาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคเหงือก เช่น ลักษณะอักเสบหรือการอักเสบเหงือก (Gingivitis) หรือการอักเสบหลังเหงือก (Periodontitis) ซึ่งมักเกิดจากการดูแลช่องปากไม่เพียงพอ การสะสมพลัคและการติดเชื้อแบคทีเรีย 3. สีเหลือง เหงือกที่เป็นสีเหลืองอาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคจอนด์ (Jaundice) ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงปัญหาในตับหรือทางท่อน้ำดีได้ 4. เหงือกสีดำ เหงือกที่เป็นสีดำหรือสีเข้มอาจเกิดจากเมโลทิน เป็นสีหนึ่งที่พบได้ในร่างกาย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในสีของเหงือกเป็นสีดำอาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาที่ร้ายแรงกว่า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการให้ถูกต้อง โดยจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสีของเหงือกเช่น พื้นผิวเรื้อรังของผิวหนัง ความแสดงอารมณ์ และสีผม ดังนั้นถ้าคุณมองเห็นเหงือกที่มีสีผิดปกติซึ่งไม่ดีขึ้นหรือมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือหมอฟันเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม 🌟อาการของโรคเหงือกและโรคปริทันต์ โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะแรกและมักส่งผลกระทบต่อผิวเหงือก โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของเหงือกและฟัน คนไข้อาจมีเลือดออกที่เหงือกขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน มีอาการกดเจ็บที่เหงือก และเหงือกบวมแดง ทั้งนี้ เหงือกอักเสบสามารถรักษาได้โดยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดแบคทีเรียและคราบพลัคบนผิวฟัน ซึ่งจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นในเวลาต่อมา แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง โรคปริทันต์ หรือ “ปริทันต์ไซส์” (Pyorrhea) เกิดขึ้นเมื่อภาวะเหงือกอักเสบไม่ได้รับการรักษา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดร่องลึกระหว่างเหงือกและรากฟัน รวมทั้งอาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียที่บริเวณนั้น ๆ จนเนื้อเยื่อและกระดูกขากรรไกรที่ยึดเหงือกและฟันเอาไว้ด้วยกันได้รับความเสียหาย ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และมีเลือดออกจากเหงือกได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โรคปริทันต์อาจก่อให้เกิดโรคอักเสบหลังเหงือก (Periodontitis) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่รุนแรงของโรคและสามารถทำให้กรามและกรามฟันสูญเสียได้ 🌟การดูแลเหงือกให้มีสุขภาพที่ดี การดูแลเหงือกเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพช่องปากและรักษาความสุขภาพรวมของร่างกาย นี่คือขั้นตอนการดูแลเหงือกที่คุณสามารถปฏิบัติได้ 1. แปรงฟันทุกวัน แปรงฟันสองครั้งต่อวัน 2. ใช้ไหมสำหรับทำความสะอาดระหว่างฟันเพื่อล้างเศษอาหารและคราบเชื้อแบคทีเรียในพื้นที่ที่ไม่สามารถแปรงได้ถึง 3. สเปรย์ช่วยล้างเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรียในช่องปากที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ควรใช้สเปรย์ที่มีส่วนประกอบที่เป็นมิตรกับเหงือก 4. การทำความสะอาดฟันเป็นประจำหลังรับประทานอาหารสามารถช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นได้ 5. ระมัดระวังการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอซิด อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอซิดอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนเนื้อเยื่อเหงือก 6. เข้ารับการตรวจรักษาเหงือกกับทันตแพทย์หรือหมอฟันเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบสุขภาพเหงือกและรับการทำความสะอาดเหงือกอย่างถูกต้อง 7. หยุดสูบบุหรี่และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อสุขภาพช่องปาก 🌟วิธีเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง หลายๆคนจะทราบก็ต่อเมื่อมีอาการหนักจนไปพบทันตแพทย์แล้วนั่นเอง แต่วิธีการดูเบื้องต้นนั้นไม่ยากอย่างที่คิดสามารถตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตนเองได้ การเช็คปัญหาสุขภาพของเหงือกด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อระบุความสภาพของเหงือกและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อเช็คปัญหาสุขภาพของเหงือกด้วยตัวเอง 1. ดูสีของเหงือก สีเหงือกที่ดีมักเป็นสีชมพูอ่อนถึงชมพูอมเหลือง หากเห็นสีเหงือกเปลี่ยนเป็นแดงหรือมีเนื้อเยื่อเหงือกที่บวม อาจเป็นสัญลักษณ์ของโรคเหงือก 2. เช็คการเลือดออก ใช้ไหมหรือนิ้วกดเบาๆ บนเหงือก หากมีเลือดออกจากเหงือกโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก 3. เช็คการบวมหรือบริเวณอักเสบ ลองสัมผัสบริเวณเหงือกด้านหน้าและด้านหลังของฟัน เช็คว่ามีการบวมหรือรู้สึกอักเสบหรือไม่ 4. ตรวจสอบการยึดติดกับฟัน ค่อยๆ โยกเลื่อนฟันด้วยนิ้ว เพื่อดูว่าเหงือกยึดติดกับฟันอย่างเหมาะสมหรือไม่ 5. มีอาการปวดหรืออักเสบ หากมีอาการปวดร้าวหรือรู้สึกอักเสบในบริเวณเหงือก เช่น เวลาแปรงฟัน อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก 6. สังเกตการบริโภคอาหาร หากคุณรับประทานอาหารแล้วมีความรู้สึกว่าเหงือกบวมหรืออักเสบเพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาเหงือก โรคเหงือกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย และทุกคน ส่วนใหญ่จะพบในวัยผู้ใหญ่ หากเริ่มมีอาการควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว 🌟สรุป สีเหงือกสามารถเป็นสัญลักษญ์ที่สื่อถึงสุขภาพของเราได้ การเปลี่ยนแปลงของสีเหงือก อาจแสดงถึงสถานะสุขภาพทั้งร่างกายของเราได้ หากคุณพบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติในสี เนื้อเยื่อ หรือความสัมพันธ์ของเหงือก ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เหมาะสม การเช็คปัญหาสุขภาพเหงือกเป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อการรักษาที่เท่าทันและเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง การดูแลเหงือกและฟันให้ถูกวิธี ก็สามารถทำให้อายุเหงือกและฟันอยู่กับเราไปได้อีกนาน และยังป้องกันการมีกลิ่นปาก หินปูน เกิดเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวมที่เป็นจุดเริ่มต้นของโรคปริทันต์ที่นำไปสู่การสูญเสียฟันแท้อีกด้วย ใครที่มองหาคลินิกทันตกรรมที่มีความปลอดภัย แนะนำคลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์ ศรีราชาและพัทยา มีบริการทันตกรรมครบทุกวงจรและทันตแพทย์เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรีไม่ค่าใช้จ่ายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่ คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาศรีราชา: 085-2471333 คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาพัทยา: 085-2471222 Line ID : @modernsmile Instagram : Modernsmile Website: Modernsmiledental Clinic Facebook: Modern Smile ทำฟัน จัดฟัน ศรีราชา พัทยา
เขี้ยวเพชรลิซ่า ขึ้นแท่นฮิตติดเทรนด์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลต่อวงการบันเทิงและวงการแฟชั่นระดับโลก สำหรับสาว Lisa BLACKPINK ที่ไม่ว่าจะทำอะไรหรือขยับตัวไปไหนกลายเป็นกระแสอยู่เสมอ โดยล่าสุดบนเวที Coachella 2023 ก็มีแฟนคลับหลายๆคนสังเกตุเห็นรอยยิ้มอันเปล่งประกายระยิบระยับของ Lisa ที่โดดเด่นด้วยเขี้ยวฝังเพชร (Tooth Gems) ซึ่งเคยเป็นเทรนด์ฮิตในเมื่ออดีต ตอนนี้อย่างที่เห็นกันว่ากระแส LISA BACKPINK มาแรง หลายคนสงสัยกันใช่มั้ยว่าอะไรติดฟันลิซ่า วันนี้แอดมินมีคำตอบ สารบัญ เขี้ยวเพชรลิซ่า เขี้ยวเพชรคืออะไร ขั้นตอนการทำเขี้ยวเพชร ทำเขี้ยวเพชรแพงไหม ทำเขี้ยวเพชรที่ไหนดี ประโยชน์ของการทำฟันเขี้ยวติดเพชร วิธีรักษาหลังจากติดเพชร สรุป เขี้ยวเพชรลิซ่า เขี้ยวเพชรลิซ่า มีเสน่ห์มากเมื่อทำการติดเพชรที่เขี้ยวแล้ว เมื่อยิ้มแต่ละครั้งก็จะเพิ่มประกายวาววับออกมาระยิบระยับ ช่วยสร้างเสน่ห์และเพิ่มความน่าสนใจให้เพิ่มมากขึ้นในรอยยิ้มเป็นวิธีเสริมสร้างความมั่นใจในรูปแบบหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เขี้ยวเพชรคืออะไร เขี้ยวเพชรคือ การทำเขี้ยวเพชรหรือติดเพชรที่ฟัน เพื่อความสวยงามเป็นการเสริมความงามให้ฟันเขี้ยวรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในคนหลายกลุ่ม ฟันเขี้ยวเป็นฟันที่มีหน้าที่ตัด ฉีก และแยกอาหารออกจากกัน จึงมีรูปร่างลักษณะแตกต่างจากฟันซี่อื่นๆ ดังนั้นการทำฟันเขี้ยวเพิ่มจึงตอบโจทย์ ความต้องการนี้ได้ดี อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ไม่มีการกรอฟัน หรือต้องสูญเสียเนื้อฟันแต่อย่างใด การฝังเพชรที่ฟันเป็นกระบวนการที่เป็นที่นิยมในความสวยงามและตกแต่งฟันของบางคน กระบวนการนี้มักทำในฟันหน้าที่เปิดเผยอยู่เป็นส่วนใหญ่ของชีวิตประจำวันของคนในธุรกิจ นักแสดงหรือบุคคลที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับภาพลักษณ์ของตนเอง แต่การทำเขี้ยวเพชรอาจไม่เหมาะสมหรือไม่ปลอดภัยสำหรับทุกคน นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในการเลือกที่อยู่ที่ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทางของด้านนี้ การเขี้ยวเพชรนี้ ควรทำโดยทันตแพทย์ที่มีความชำนาญและให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้รับบริการ ขั้นตอนการทำเขี้ยวเพชร ตรวจสอบสภาพฟัน: ทันตแพทย์จะตรวจสอบสภาพฟันของคุณเพื่อตรวจสอบว่าสามารถฝังเพชรลงไปได้หรือไม่ ถ้าฟันมีปัญหาเช่น ฟันมีผลโยนหรือชำรุด อาจจะไม่เหมาะสำหรับกระบวนการนี้ ทำความสะอาดฟัน: ก่อนที่จะฝังเพชร คุณควรทำความสะอาดฟันอย่างละเอียดโดยการแปรงฟันและใช้สายจมูกเพื่อเอาเศษอาหารและคราบสีออกจากช่องคลองฟัน เตรียมพื้นผิวฟัน: ทันตแพทย์จะเตรียมพื้นผิวที่บนฟันที่ต้องการฝังเพชรโดยใช้สว่านทันตกรรมเล็กน้อย ติดเพชร: เมื่อพื้นผิวฟันพร้อมแล้ว ทันตแพทย์จะใช้สารกาวพิเศษหรือเทปเกาะเพชรลงไปบนฟัน จากนั้นจะนำเพชรมาวางลงบนพื้นที่ที่มีสารกาวเสร็จเรียบร้อย ตรวจสอบและปรับแต่ง: ทันตแพทย์จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพชรติดแน่นและปรับแต่งการฝังเพชรให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า ทำเขี้ยวเพชรแพงไหม สำหรับราคาการทำเขี้ยวเพชรนั้น โดยทั่วไปแล้วราคาจะเริ่มต้นที่ 2,000 – 3,000 บาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบเพชรที่เลือก ทั้งนี้แนะนำให้สอบถามรายละเอียดค่าบริการกับทางคลินิกก่อน บางที่อาจจะมีราคาที่ถูกกว่าหรือแพงกว่าแตกต่างกันไป ดังนั้นควรสอบถามค่าบริการอย่างละเอียดและปรึกษากับทางคลินิกให้ดีก่อน ทำเขี้ยวเพชรที่ไหนดี การทำเขี้ยวเพชรที่ไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าและต้องเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีความปลอดและได้มาตราฐานมีใบประกอบวิชาชีพ โรงพยาบาลบางแห่งก็รับทำเช่นกันแต่ควรหาข้อมูลให้ดีก่อน ทั้งนั้นไม่ควรซื้อเพชรมาติดเองเพราะอาจจะทำให้เกิดโรคภายในช่องปากได้ แนะนำให้เข้ารับบริการที่คลินิกทันตกรรมดีกว่าค่ะเพื่อความปลอดภัยกับตัวลูกค้าด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรไปทำเขี้ยวเพชรกับผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์อย่างเด็ดขาด หรือหาซื้อเพชรมาติดฟันด้วยตนเอง เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำรวมถึงเพชรที่นำมาติดอาจไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ จึงเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค และนำมาซึ่งการติดเชื้อได้ในที่สุด ประโยชน์ของการทำฟันเขี้ยวติดเพชร เพื่อความสวยงาม พร้อมเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจในรอยยิ้ม โดย ปรับรูปทรงและสีของฟัน ให้ความปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ต้องกรอเนื้อฟันก่อนทำ แต่ถ้าฝังเพชรก็อาจจะกรอผิวฟันและฝังเพชรลงไป ยึดติดกับฟันได้ดี และสามารถใช้งานและแปรงฟันได้ตามปกติแต่ไม่ควรแปรงฟันแรงจนเกิดไป ใช้งานได้ทันที และรับประทานอาหารได้ทันทีหลังการทำเขี้ยว แต่ควรระมัดระวังอาหารพวกที่เป็นของแข็ง วิธีรักษาหลังจากติดเพชร เพื่อป้องกันคราบหินปูนที่เกิดจากการสะสมทำให้เกิดเป็นโรคเหงือกได้ และเพื่อป้องกันการเสื่อมของวัสดุ รวมไปถึงการป้องกันฟันผุ ควรทำความสะอาดช่องปากให้สะอาด แปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ไม่ควรใช้ไม้แคะฟัน เพราะอาจจะไปกระแทกกับเพชรจนเกิดความเสียหาย ไม่ควรแปรงฟันแรงจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้วัสดุหลุด หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ผลไม้ หรืออาหารพวกมีความแข็ง และเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวจัด เป็นกรด เพราะอาจจะทำให้เพชรและกาวมีโอกาสเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น หลายคนสงสัยว่าใช้เพชรอะไรทำ ไม่มีข้อกำหนดตายตัวสำหรับการนำเพชรมาติดฟันเขี้ยว บางรายอาจใช้เพชรจริง หรือ อัญมณีมีค่าอื่นๆ เช่น แซฟไฟร์ ทับทิม แต่ส่วนมากนิยมใช้ “เพชรสังเคราะห์ หรือเพชรเทียม” ที่มีความแวววาวคล้ายเพชรแท้แทน เนื่องจากมีราคาถูกกว่า หรือบางคลินิกอาจเลือกใช้คริสตัลซึ่งมีระดับความแวววาวใกล้เคียงกับเพชรแทน ทั้งนี้การจะเลือกวัสดุแบบใด สีอะไรนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและงบประมาณของลูกค้าที่เข้ามารับบริการ ติดเพชรที่ฟันเองได้ไหม? ปัจจุบันในโลกออนไลน์มีการขายเพชร คริสตัลสำหรับติดฟันเขี้ยว ซึ่งมักจะโฆษณาว่าสามารถติดเองได้ที่บ้านแบบง่ายๆ แต่ในความจริงแล้วไม่ควรหาซื้อเพชรมาติดเองเพราะเพชรเหล่านั้นยังไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อซึ่งอาจจะทำให้ติดเชื้อในช่องปากได้และก่อให้เกิดโรคเหงือกและฟันผุในที่สุด เช่นเดียวกับกาวที่ใช้ติดเพชรซึ่งมีวางขายในโลกออนไลน์ กาวเหล่านี้ไม่ใช่กาวทางทันตกรรม หรือสารยึดติด (Bonding) ทางทันตกรรมโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อติดลงผิวเคลือบฟันจึงอาจสร้างความเสียหายให้ผิวเคลือบฟัน ส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่นๆ ในช่องปากและลำคอ อาจมีสารเคมีอื่นๆ ปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้ รวมทั้งเสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วย เช่นโรคเหงือก และ ฟันผุ หากสนใจทำเขี้ยวฝังเพชร หรือทำฟันติดเพชร แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนจะดีที่สุดเพื่อให้ได้เขี้ยวเพชรที่สวยงามสมกับความต้องการจริงๆ และปลอดภัยต่อสุขภาพช่องปาก สรุป ยุคสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก การทำเขี้ยวเพชรหรือติดเพชรที่ฟัน เพื่อความสวยงามเป็นการเสริมความงามให้ฟันเขี้ยวรูปแบบหนึ่งการทำเขี้ยวเพชรนั้นทำเพื่อความสวยงามยิ้มแล้วมีเสน่ห์ ด้วยความที่หลายคนรู้สึกไม่พึงพอใจในรูปร่าง หรือตำแหน่งฟันเขี้ยวของตัวเอง ดังนั้นการทำเขี้ยวเพชรติดที่ผิวฟันเพิ่มตอบโจทย์ ความต้องการนี้ได้ดี อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ไม่มีการกรอฟัน หรือต้องสูญเสียเนื้อฟันแต่อย่างใดเพราะฉนั้นแล้วการทำเขี้ยวเพชรขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล และควรเลือกคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตราฐาน ราคาตามความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ควรซื้อมาติดเองหรือให้บุคคลที่ไม่ใช่ทันตแพทย์มาติดให้สิ่งแปลกปลอมแบคทีเรียบนเพชรที่เรามองไม่เห็นอาจจะก่อโรคได้และติดเชื้อในช่องปาก ใครที่มองหาคลินิกทันตกรรมที่มีความปลอดภัย แนะนำคลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์ ศรีราชาและพัทยา มีบริการทันตกรรมครบทุกวงจรและทันตแพทย์เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรีไม่ค่าใช้จ่ายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่ คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาศรีราชา: 085-2471333 คลินิกทันตกรรมโมเดิร์นสไมล์สาขาพัทยา: 085-2471222 Line ID : @modernsmile Instagram : Modernsmile Website: Modernsmiledental Clinic
จัดฟัน MSI สารบัญ จัดฟัน MSI รายละเอียดการผ่อนชำระ ดูแลฟันอย่างไร หลังจากจัดฟัน เพื่อสุขอนามัยในช่องปากที่ดี เพราะฟันของคุณต้องได้รับการดูแลอย่างดีหลังจากจัดฟัน ปัญหาที่พบหลังจากจัดฟัน จัดฟัน MSI การจัดฟัน MSI คือ เคสจัดฟันราคา 25,000 บาท ซึ่ง 2 ปีจะมี 1 ครั้ง เป็นเคสศึกษา แต่จะมีอาจารย์อยู่ด้วยทุกเคส และระหว่างการรักษาจะมีคุณหมอหลายท่านที่จะเข้ามาช่วยกันวางแผนการรักษา แต่คนไข้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะทางคลินิกมีอาจารย์และทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญค่ะ เคสจัดฟัน 25,000 จะมีเฉพาะวันพุธและวันพฤหัสบดี เวลา 16.00-20.00 น.เท่านั้น โดยจะมีตารางนัดแจ้งล่วงหน้า คนไข้ต้องเข้าพบคุณหมอ 1 ครั้งต่อเดือน หากทำการเลื่อนนัดหรือผิดนัด 3 ครั้ง จะย้ายเป็นเคสจัดฟันปกติ รายละเอียดการผ่อนชำระ เคสจัดฟัน 25,000 บาท ผ่อนชำระ เดือนละ 2,500 x 6 ครั้ง / 1,000 x 10 ครั้ง / แถมฟรีรีเทนเนอร์ (ราคา 6,000) กรณีที่ใส่เครื่องมือเสริม (เฉพาะบางกรณีเท่านั้นหรือบางท่านเท่านั้น) จะคิดแค่ราคาเครื่องมือ เช่นค่าสกรู ปกติ 5,000 บาท/ ตัว เหลือ 2,500 บาทต่อตัว และถ้าหากแบล็คเก็ตหลุด ปกติ 600/ตัว เหลือ 300/ตัว เคสจัดฟัน 25,000 ไม่รวมค่า X-ray ฟิล์มใหญ่ ,พิมพ์ฟัน , เคลียร์ช่องปาก*ถ้า X-ray ฟิล์มใหญ่กับสถาบัน MSI จะเสียค่า X-ray ในครั้งแรกเท่านั้น หลังจากนั้นจะฟรีจนกว่าจะจัดฟันเสร็จ ทุกครั้งที่มาพบคุณหมอจะเสียค่าปลอดเชื้อ 100 บาท ครั้งแรกที่มาพบคุณหมอ คุณหมอจะชักประวัติ (ปรึกษาฟรี) กรณีคนไข้ตัดสินใจจะทำแน่นอน สิ่งที่ต้องทำคือ X – ray ฟิล์มใหญ่ 2 ฟิล์ม 1,000 x 2 (2,000) พิมพ์ฟัน 1,100 บาท ค่าปลอดเชื้อ 100 บาท ถ่ายรูปฟัน (ก่อนจัดฟัน) ฟรี ส่งเคลียร์ช่องปาก (แนะนำบัตรสมาชิก MMC) นัดติดเครื่องมือ เดือนถัดไป ในกรณีที่คนไข้อายุไม่ถึง 20 ปี ต้องชี้แจงรายละเอียดให้ผู้ปกครองฟังอย่างละเอียด ถ้าลูกค้าสะดวกเคลียร์ช่องปากที่คลินิกโมเดิร์นสไมล์ของเรา ตอนนี้มีบัตรสมาชิกแนะนำมี 2 บัตรให้เลือก 1. บัตรMMC สำหรับ 1 ท่าน ราคา 999 บาท (ได้รับส่วนลด 5-10%) มีอายุการใช้สิทธิ 1 ปี 2. บัตรMMC สำหรับครอบครัว (3 ท่าน) ราคา 1,999 บาท (ได้รับส่วนลด 5-10%) มีอายุการใช้สิทธ์ 1 ปีถ้าคุณลูกค้าสมัครบัตรMMCวันนี้ และทำการรักษาวันนี้คุณลูกค้า สามารถใช้สิทธิในวันนี้ได้เลยนะคะ(ใช้สิทธิบัตร MMC ได้ทั้ง 2 สาขา) กรณีหากคนไข้ผิดนัดเกิน 3 ครั้ง ทางคลินิกจะให้ย้ายเป็นเคสปกติหรือจัดฟันแบบโลหะนั้นเอง จัดฟันแบบติดแหน่นหรือแบบเหล็ก เริ่มต้นที่ 40,000 บาท ถือว่าการเป็นการจัดฟันที่คนนิยมทำกันเยอะที่สุด ตั้งแต่วัยรุ่นใสจนถึงรุ่นใหญ่ เพราะการจัดฟันแบบโลหะจะช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง การสบฟันไม่ดี และราคาไมแรงมากจับต้องได้ จัดฟันแบบโลหะ ช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่เป็นระเบียบได้ ให้เรียงตัวสวยเป็นระเบียบตามที่ต้องการ และยังช่วยปรับรูปหน้าให้เปลี่ยนแปลงได้ทั้งนี้การจัดฟันแบบโลหะยังถือเป็นแฟชั่น จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นวัยรุ่น ดารา นักร้อง นักแสดง และคนทั่วไปนิยมทำกัน แบบโลหะธรรมดา จะเป็นลักษณะนำเครื่องมือจัดฟันโลหะมาติดบนผิวฟันและซึ่งลวดจัดฟันจะถูกรัดอยู่ในตัวแบร็คเก็ตด้วยยางจัดฟัน แรงของเครื่องมือจัดฟันจะช่วยให้ฟันมีการเคลื่อนที่ถูกต้อง ตรงตำแหน่งตามที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ ข้อดีแบบโลหะ ช่วยให้ฟันที่เก ซ้อน ห่าง เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบตามต้องการ เพิ่มความมั่นใจบุคลิกภาพดีขึ้น กล้าพูด กล้าแสดงออก ส่งเสริมระบบการเคี้ยวอาหารดีขึ้น และการสบฟันดีขึ้น ทำให้สุขภาพปากและฟันดีขึ้น แก้ไขปรับรูปหน้าให้เปลี่ยนแปลงขึ้นได้ ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะ : จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล ขั้นตอนจัดฟันโลหะ 1.เข้ามาปรึกษาฟรีกับทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวิเคราะห์ปัญหาฟันและช่องปาก 2.หากสนใจทำทางทันตแพทย์จะถ่ายเอ็กซเรย์ เพื่อให้เห็นถึงความผิดปกติของกระดูกและฟัน ทันตแพทย์จะส่งต่อหมอทั่วไปในการเคลียร์ช่องปากก่อนการติดเครื่องมือ 3.นัดหมายเพื่อติดเครื่องมือจัดฟัน และนัดมาปรับเครื่องมือเดือนละครั้งหรือ โดยความถี่จะขึ้นอยู่กับปัญหาการสบฟันของคนไข้หลังจัดเสร็จ คนไข้ยังคงต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำ และต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ตลอดระยะเวลาของการใส่รีเทนเนอร์ 4.กลับมาตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน หลังจัดฟันเสร็จ เพื่อให้ฟันยังคงเรียงตัวสวย มีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง **หมายเหตุ ** การจัดฟันแบบโลหะ จะถูกมองว่าจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการจัดฟันแบบอื่นนั้น แต่ความจริงแล้วเป็นการจัดฟันมีประสิทธิภาพอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ควรเลือกการจัดฟันที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดจะดีกว่า เพราะการจัดฟันไม่ว่าแบบไหนก็ต้องใช้ระยะเวลาหลายปี และอยู่ภายใต้การวางแผนของทันตแพทย์เฉพาะทาง ดูแลฟันอย่างไร หลังจากจัดฟัน เพื่อสุขอนามัยในช่องปากที่ดี เพราะฟันของคุณต้องได้รับการดูแลอย่างดีหลังจากจัดฟัน แปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ใช้แปรงสีฟันจัดฟันและไหมขัดฟันทำความสะอาดฟัน เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมฟลูออไรด์ หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่เหนียว และแข็ง เพราะจะทำให้เครื่องมือหลุด พบทันตแพทย์ทุก 1 เดือน และขูดหินปูนทุก 6 เดือน ปัญหาที่พบหลังจากจัดฟัน มีอาการปวดฟัน หรือฟันโยกซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว มีแผลระคายเคืองในปาก พูดไม่ชัด มีกลิ่นปาก รีวิวจากลูกค้าจัดฟันโปร 25,000 #Part 1 https://youtu.be/cpIYU7jr4P0 รีวิวจากลูกค้าจัดฟันโปร 25,000 #Part 2 https://youtu.be/6LjCpxmB4V0 ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สาขาศรีราชา : 085-2471333 สาขาพัทยา : 085-2471222 Line ID : @modernsmile Instagram : modernsmile Website : Modernsmile dental Clinic
ฟันล่างคร่อมฟันบน สามารถจัดฟันโดยไม่ผ่าตัดได้หรือไม่ ฟันล่างคร่อมฟันบน นับเป็นหนึ่งปัญหาที่คนไทยจำนวนไม่น้อยที่กำลังพบปัญหานี้อยู่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งการใช้ชีวิตและในเรื่องของความมั่นใจ ทำให้หลายคนไม่กล้าเผยรอยยิ้ม เพราะรู้สึกอายจากปัญหาฟันซ้อนหรือฟันผิดรูปที่เกิดขึ้น สารบัญ ฟันล่างคร่อมฟันบนคืออะไร ลักษณะของฟันล่างคร่อมฟันบนมีกี่ประเภท ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาฟันล่างคร่อมฟันบน การดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างรอการรักษาปัญหาฟันล่างคร่อมฟันบน ฟันล่างคร่อมฟันบน สามารถจัดฟันโดยไม่ผ่าตัดได้หรือไม่ ฟันล่างคร่อมฟันบนคืออะไร เป็นอาการของฟันที่มีการสบกันแบบผิดปกติของฟันล่างที่เกยฟันบนออกมา หรือที่ ทางการแพทย์เรียกว่า “ภาวะคางยื่น” (Prognathism) สามารถเกิดได้กับทั้งชุดฟันน้ำนม ชุดฟันผสม และชุดฟันแท้ รวมถึงพบได้ทั้งในฟันหน้าและฟันหลัง ปัญหาทั่วไปที่เกิดจากลักษณะฟันเช่นนี้คือบางทีเราไม่สามารถแสดงหรือยิ้มได้อย่างมั่นใจ เหตุจากช่องระหว่างฟันนี้รวมถึงโครงสร้างรูปหน้าที่คางยื่นมากกว่าปกติ คนที่มีปัญหาเหล่านี้ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะมีปัยจัยหลายอย่างที่ทำให้มีผลต่อการใช้ชีวิต ลักษณะของฟันล่างคร่อมฟันบนมีกี่ประเภท สำหรับความรุนแรงของอาการมีตั้งแต่ฟันล่างคร่อมฟันบนเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงการที่ฟันล่างยื่นออกมามากจนฟันแถวล่างกับแถวบนไม่สบกันเลย ตั้งแต่ฟัน 1-2 ซี่ ฟัน 3-4 ซี่ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกว่าคางยื่นมากกว่าปกติ หรือรู้สึกว่าหน้าเบี้ยวได้ โดยลักษณะของการเกิดฟันล่างคร่อมฟันบนจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท หลักๆ 1. ขากรรไกรบนและขากรรไกรล่างปกติ คนไข้ที่มีขากรรไกรบนและล่างปกติ มักประสบปัญหาเรื่องของการสบฟัน คางยื่น หน้าเบี้ยว คางเบี้ยว ฟันล่างยื่นคร่อมฟันบน 2. มีความผิดปกติของขากรรไกรบน หรือขากรรไกรล่าง สำหรับผู้ที่มีปัญหาขากรรไกรบน หรือขากรรไกรล่าง เช่น ขากรรไกรบนเล็ก ขากรรไกรล่างใหญ่ อาจจะทำให้รู้สึกว่ามีปัญหาคางยื่นได้ เนื่องจากมีฟันล่างคร่อมฟันบนบนมากกว่า 2 ซี่ หรือฟันล่างคร่อมฟันบนทั้งหมด รวมถึงอาจจะมีอาการฟันล่างคร่อมฟันบนแค่ซี่เดียว ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาฟันล่างคร่อมฟันบน ปัยจัยที่ทำให้เกิดฟันล่างคร่อมฟันบนอาจเกิดขึ้นได้ทั้งฟันซี่เดียวหรือจำนวนหลายซี่ ซึ่งมีปัจจัยการเกิดขึ้นได้ คือ กรรมพันธุ์ แนวขากรรไกรเกิดความผิดปกติ การสูญเสียฟันน้ำนมบริเวณฟันล่างเร็วกว่ากำหนด ทำให้กระดูกบริเวณขากรรไกรล่างเจริญเติบน้อย กระดูกขากรรไกรบน – ล่าง มีการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน เช่น ขากรรไกรล่างมีการเติบโตช้ากว่าขากรรไกรบน ผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ ปัญหาที่พบในการใช้ชีวิตที่จะพบได้คือ การพูดลำบาก และมีการออกเสียงพยัญชนะบางตัวไม่ได้ เช่น ส เสือ การบดเคี้ยวจากการรับประทานอาหาร ทำให้การเคี้ยวไม่ละเอียด ซึ่งทำให้ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้ ฟันผุ เนื่องจากมีฟันสึก เกิดจากการสบฟันที่ผิดปกติ มีกลิ่นปาก จากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากเรื้อรัง เจ็บขากรรไกรหรือบริเวณแนวข้อต่อ รวมถึงมีอาการปวดศีรษะและหู มีภาวะระบบทางเดินหายใจผิดจังหวะในตอนกลางคืน และนอนกรน อมฟันบน มีหลายวิธีที่ทันตแพทย์เลือกใช้รักษาหรือแก้ไขภาวะฟันล่างคร่อมฟันบน โดยมีตั้งแต่การผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรไปจนถึงการสวมใส่อุปกรณ์จัดฟัน หากรักษาด้วยวิธีการเหล่านี้ตั้งแต่เด็กยังเล็กจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมาก นั่นชี้ให้เห็นว่าการเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยกำจัดปัญหาใหญ่หลวงที่อาจเกิดตามมาเมื่อโตขึ้นได้ ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้เด็ก ๆ เริ่มไปตรวจสภาพช่องปากเมื่ออายุได้ 7 ขวบ อุปกรณ์ที่ช่วยช่วยรักษาฟันล่างคร่อมฟันบนในเด็ก จะมี อยู่ 2ประเภทด้วยกัน อุปกรณ์ขยายขากรรไกร ซึ่งอุปกรณ์จะเป็นลักษณะเฟรมเชื่อมกันทันตแพทย์จัดฟันจะใส่ไปที่บริเวณเพดานปาก ในทุก ๆ คืน เด็กจะต้องใช้กุญแจพิเศษช่วยไขให้อุปกรณ์นี้ขยายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กระบวนการนี้จะช่วยขยายขากรรไกรบนให้กว้างขึ้นจนกระทั่งฟันล่างไม่ยื่นเกยฟันบนออกมา ปกติแล้วเด็ก ๆ จะใส่อุปกรณ์ขยายนี้เป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้นทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์แทน หน้ากาก “ดึงกลับ” เป็นอุปกรณ์ที่เลียนแบบลักษณะเฮดเกียร์เหล็กจัดฟัน ซึ่งอุปกรณ์นี้จะครอบไปที่ศีรษะของเด็กและดึงขากรรไกรบนกลับไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องโดยใช้สายรัดโลหะรัดที่ด้านหลังของฟันบน ตามข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ช่องปากใบหน้าและขากรรไกรแห่งอเมริกา ในกรณีที่ฟันเกยมากหรือเป็นผู้ป่วยผู้ใหญ่ การรักษาภาวะฟันล่างคร่อมฟันบนนั้นอาจต้องใช้วิธีการผ่าตัดศัลยกรรม ในกระบวนการนี้ ศัลยแพทย์ช่องปากใบหน้าและขากรรไกรจะแยกกระดูกส่วนหลังของขากรรไกรออกจากส่วนหน้า จากนั้นจะปรับบริเวณดังกล่าว ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้สามารถปรับส่วนของขากรรไกรของฟันล่างให้กลับไปทางด้านหลังได้ การดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างรอการรักษาปัญหาฟันล่างคร่อมฟันบน เมื่อคุณคิดว่าต้องการแก้ไขปัญหาฟันบนคร่อมฟันล่างแล้วและเลือกได้แล้วว่าจะใช้วิธีไหนในการแก้ไขปัญหานี้ของคุณ สิ่งสำคัญในระหว่างที่รอการรักษาคือการดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอพร้อมกับการดูแลเหงือกของคุณให้แข็งแรงเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของช่องปาก ให้แปรงฟันอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่ช่วยดูแลเหงือกและฟันของคุณเป็นอย่างดี ฟันล่างคร่อมฟันบน สามารถจัดฟันโดยไม่ผ่าตัดได้หรือไม่ สรุปแล้วการแก้ไขฟันล่างคร่อมฟันบนนั้น จะผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดขึ้นอยู่กับความผิดปกติของของขากรรไกรมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีน้อยก็สามารถจัดฟันโดยไม่ผ่าตัดได้ และเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าการผ่าตัด แต่ถ้าความผิดปกติของขากรรไกรมีมาก ก็ต้องผ่าตัดร่วมด้วยเพราะถ้าเราไม่ผ่าตัดก็จะทำให้ฟันหลุดจากเบ้ากระดูกฟัน และความสมดุลของใบหน้าอาจจะดูแย่ลง หากมีปัญหาน้อยหรือความผิดปกติน้อยก็สามารถจัดฟันได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น จัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบใส จัดฟันแบบเซรามิก จัดฟันแบบดามอน สำหรับความผิดปกติมีมากก็ต้องทำการผ่าตัดร่วมกับการจัดฟันด้วย จะทำการแก้ไขโครงสร้างความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรบนกับกระดูกขากรรไกรล่างมุมฟันบนและล่าง ซึ่งทางทันตแพทย์จัดฟันจะต้องวางแผนร่วมกับทันตแพทย์ผ่าตัด เพื่อแก้ไขปัญหาช่องปากและกระดูกขากรรไกรแนวทางในการรักษาร่วมกันก่อนทำการรักษา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาคนไข้แต่ละราย ทำให้มีค่าใช้จ่ายทั้งในการจัดฟัน และการผ่าตัด ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ต้องดมยาสลบและพักอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ รวมถึงมีผลข้างเคียงของการผ่าตัด เช่น บวม ชาที่ขากรรไกร ร่วมด้วย ทางที่ดีที่สุดคือควรทำการรักษา เนื่องจากอาจส่งผลข้างเคียงต่อการใช้ชีวิต และอาจสร้างความรู้สึกเจ็บปวดให้กับคนไข้ตามมาได้ แต่หลายคนอาจจะกังวล การรักษาจะต้องยุ่งยากหรือจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีการรักษาฟันล่างคร่อมฟันบนที่เหมาะสมเสมอไป เพราะคุณสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการอื่นโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเช่นกัน ดังนั้น จึงควรเข้ารับคำปรึกษา การประเมิน และการวางแผนการรักษาจากทางทันตแพทย์ก่อน เพื่อดูลักษณะอาการ ซึ่งการรักษาฟันล่างคร่อมฟันบนหากทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะช่วยทำให้คุณมีสุขภาพภายในช่องปากที่ดี และช่วยแก้ปัญหาที่พบ เช่น การออกเสียง รูปหน้าเบี้ยว ปัญหาด้านการบดเคี้ยว ฯลฯ ให้ดีขึ้นมากกว่าที่เคยได้แน่นอน ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Modern Smile Clinic ศรีราชาและพัทยา 085-2471333 สาขาพัทยา 085-2471222 สาขาศรีราชา Line ID : @modernsmile Instagram : Modernsmile Website : Modernsmiledental Clinic